ล้างพิษ หรือ Detoxification เป็นที่นิยมอยู่มากในเวลานี้ ในหมู่ผู้รักสุขภาพ คนทั่วไปรู้จัก ในฐานะของ การสวนล้างลำไส้ ด้วยกาแฟ และเรียกสั้นๆว่า ดีท็อกซ์

คุณอาจจะเป็นคนหนึ่งที่สนใจการสวนลำไส้ แต่ถ้าคุณทำไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า โดยไม่เข้าใจทฤษฎี ที่ถูกต้อง คุณอาจหลงทิศ ผิดทาง นอกจากไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควรแล้ว ยังอาจเกิดโทษ ตั้งแต่ปวดมวนท้อง ไปจนถึง อ่อนเพลีย เกินกว่าเหตุ หรือกระทั่งกลับทำให้สารพิษ คั่งอยู่ในตัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

และต่อไปนี้คือความรู้ใหม่ว่าด้วยทฤษฎีการล้างพิษ

ในความรู้ทางชีวภาพของเซลล์ เป็นที่รู้กันมานานแล้วว่า เซลล์แต่ละเซลล์ มีกระบวนการขจัดสารพิษ ภายในตัวของมัน ทั้งด้วยการแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ออกสู่ภายนอก แล้วผ่านออกไปทาง ระบบน้ำเหลือง นั่นประการหนึ่ง

ภายในเซลล์เองก็มีเอนไซม์และสารต้านอนุมูลอิสระชนิดต่างๆ ส่วนมากอยู่ในชิ้นส่วนเล็กๆ ที่เรียกว่า ไมโตคอนเดรีย ซึ่งเป็นแหล่งที่มีกระบวนการเคมีในเซลล์ และอาศัยการลำเลียง ผ่านท่อเล็ก ในเซลล์ ส่งผ่านสารเสีย ไปจากเซลล์อีกทอดหนึ่ง

ล้างพิษ-มุมมองเชิงร่างกายและจิตใจถ้าขยายมุมมองในระดับที่เชื่อมโยงร่างกายกับจิตใจ กระบวนการล้างพิษมีอยู่ถึง ๕ กระบวน การใหญ่คือ

๑) กินเพื่อล้างพิษ โดยอาศัยกินข้าวกล้อง ผักสด ผลไม้และพืชสมุนไพร เพื่อรับแอนติออกซิแดนต์ และสารผัก ไปขจัดพิษ ภายในร่างกาย

๒) อดเพื่อสุขภาพ อาศัยการกินน้อย เพื่อลดปริมาณสารเสียที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการกินการย่อย ปล่อยโอกาส ให้เซลล์ร่างกาย มีกระบวน การชีวเคมีขจัดสารเสียด้วยตัวเอง

๓) สวนลำไส้ อาศัยน้ำบ้าง หรือสารละลายบางอย่างเกิดผลในการขจัดตะกรัน เก่าเก็บในลำไส้ และอาศัย ผลทางชีวเคมี ของสารที่สวนนั้น ลดสารเสียในร่างกายลง

๔) ฝึกลมปราณล้างพิษ ในการปฏิบัติชี่กง หรือโยคะ ให้กายประสานใจ ร่วมกับการขจัดสารเสีย ทางลมหายใจ

๕) ฝึกสมาธิล้างพิษ เน้นความสงบทางจิตใจ ลดอัตราเผาผลาญของร่างกาย ลดการเกิดสารพิษ
ถ้าสามารถ ต่อยอดด้วย วิปัสสนากรรมฐาน ก็ช่วยขจัดอาสวะกิเลส ก้าวสู่การพ้นทุกข์

ที่มา : http://www.asoke.info/