เป็น ที่ทราบกันดีว่ากลิ่นน้ำมันหอมระเหยหลายๆ ชนิดที่ถูกนำมาใช้ในการบำบัดอาการของโรค หรือภาวะบำบัด พริมไทยสปาจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกลิ่นน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ในแต่ละ กลุ่มอาการเพื่อให้คุณได้สะดวกในการที่จะเลือกใช้ ดังนี้

 

อารมณ์โกรธ

มะกรูด (Bergamot) มะลิ (Jasmin)  ส้ม (Orange) แพ็ตชูรี่ (Patchouli) คาโมมายล์ (Chamomile) กุหลาบ (Rose) และ กระดังงา (Ylang Ylang)

 

อารมณ์เครียด

มะกรูด (Bergamot) ซีดาร์วู๊ด (Cedarwood) คลารี่ เซจ (Clary Sage) เจอราเนียม (Geranium) ลาเวนเดอร์ (Lavender) แพ็ตชูรี่ (Patchouli) หรือพิมเสน คาโมมายล์ (Chamomile) กุหลาบ (Rose) แซนดัลวู๊ด (Sandalwood)

 

เสริมสร้างความมั่นใจ

เบย์ ลอรัล (Bay Laurel) มะกรูด (Bergamot) เกรฟฟรุ๊ต (Grapefruit) มะลิ (Jasmin) ส้ม (Orage) และ โรสแมรี่ (Rosemary)

 

อารมณ์หดหู่เศร้าสร้อย

มะกรูด (Bergamot) คลารี่ เซจ  (Clary Sage) แฟร้งคินเซนส์ (Frankincense) เจอราเนียม (Geranium) เกรฟฟรุ๊ต (Grapefruit) Helichrysum มะลิ (Jasmin) ลาเวนเดอร์ (Lavender) มะนาว (Lemon) แมนดาริน (Mandarin) ส้ม (Orage) โรมัน คาโมมายล์ (Roman Chamomile) กุหลาบ  (Rose) แซนดัลวู๊ด (Sandalwood) กระดังงา (Ylang Ylang)

 

ผ่อนคลายความอ่อนล้า อ่อนเพลีย หมดกำลังใจ

โหระพา (Basil) มะกรูด (Bergamot) พริกไทดำ (Black Peper) คลารี่ เซจ (Clary Sage) ขิง (Ginger) เกรฟฟรุ๊ต (Grapefruit) มะลิ (Jasmin) มะนาว (Lemon) แพ็ตชูลี (Patchouli) หรือพิมเสน สะระแหน่ (Perpermint) โรสแมรี่ (Rosemary) แซนดัลวู๊ด (Sandalwood) หรือไม้จันทน์

 

อารมณ์หวาดกลัว

มะกรูด (Bergamot) ซีดาร์วู๊ด (Cedarwood) คลารี่ เซจ (Clary Sage) เกรฟฟรุ๊ต (Grapefruit) มะลิ (Jasmin) มะนาว  (Lemon) แซนดัลวู๊ด (Sandalwood) หรือไม้จันทน์ ส้ม (Orage) คาโมมายล์ (Chamomile)

 

อารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียว

ลาเวนเดอร์ (Lavender) แมนดาริน (Mandarin) เนลโรลี่ (Neroli) โรมัน คาโมมายล์ (Roman Chamomile) แซนดัลวู๊ด (Sandalwood) หรือไม้จันทน์

 

อารมณ์หงอยเหงา อ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว

มะกรูด (Bergamot) คลารี่ เซจ (Clary Sage) แฟร้งคินเซนส์ (Frankincense) คาโมมายล์ (Chamomile) กุหลาบ  (Rose)

 

เสริมสร้างความจำ และ สมาธิ

โหระพา (Basil) พริกไทดำ (Black Peper) ไซเปรส (Cypress) ฮิสสอป (Hyssop) มะนาว (Lemon) เป็ปเปอร์มินท์ (Peppermint) โรสแมรี่ (Rosemary)

 

ระงับความตื่นตกใจ

แฟร็งคินเซนส์ (Frankinsence) เฮลิไครซัม (Helichrysum) ลาเวนเดอร์ (Lavender) เนลโรลี่ (Neroli) กุหลาบ (Rose)

 

คลายความตึงเครียด

เบน ซอยน์ เบอร์กาม็อต คลารี่ เซจ แฟร็งคินเซนส์ (Frankinsence) เจอราเนียม (Geranium) เกรฟฟรุ๊ต (Grapefruit) มะลิ (Jasmin) ลาเวนเดอร์ (Lavender) แมนดาริน (Mandarin) เนลโรลี่ (Neroli) แพ็ตชูลี (Patchouli) หรือพิมเสน โรมัน คาโมมายล์ (Roman Chamomile) กุหลาบ (Rose) แซนดัลวู๊ด (Sandalwood) หรือไม้จันทน์ เวติเวอร์ (Vetiver) หรือรากหญ้าแฝกหอม) กระดังงา (Ylang Ylang)

 

ที่มา: http://www.primthaispa.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=8617

รายงานโดย :เรื่อง อนุสรา ทองอุไร / ภาพ สบายอารมณ์:

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

คุณกำลังตามหาความสุขอยู่หรือเปล่า... คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่บางครั้งก็ทำความสุขหล่นหาย

เคย ไหมที่บางวันก็ไม่อยากไปทำงานตอนเช้า หรือบางทีก็ปวดหัว หงุดหงิด ไม่ได้อย่างใจ อยากกลับบ้านนอนแต่แล้วบางคืนก็นอนไม่หลับ ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ก็เป็นไปได้ว่าคุณกำลังตามหาความสุขอยู่เหมือนกับคนใน เมืองใหญ่ทั่วไป ที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดรีบร้อนด้วยหน้าที่และภาระอันหนักอึ้งใน แต่ละวัน

 

ตามหาความสุข

คนหลายคนพยายามไขว่คว้าหาความสุข แต่ยิ่งตามหาเท่าไหร่ก็ยิ่งหาไม่เจอ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านแนะนำว่าจริงๆ แล้ว ความสุขที่เราตามหานั้นไม่ได้อยู่ไหนไกลเลย ถ้าเพียงแต่เราจะใช้ชีวิตให้ช้าลงบ้าง แล้วมีสติอยู่กับปัจจุบัน หัดพึงพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ลดขนาดความต้องการในชีวิตลงบ้าง มองโลกในแง่ดี และอย่าละเลยที่จะเห็นคุณค่าของตัวเอง และคนใกล้ตัวเพียงเท่านี้น่าจะพบความสุขได้ไม่ยาก

คนโบราณมีวิธีเพิ่มความสุขแบบง่ายๆ โดยการใช้กลิ่นบำบัดจากน้ำมันหอมระเหยจากส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ใบไม้ ดอกไม้ เปลือกไม้ และเปลือกผลไม้ ที่มีคุณสมบัติในการส่งผลทางบวกต่ออารมณ์และจิตใจ ทำให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น น้ำมันหอมระเหยจากพืชบางชนิดยังช่วยกระตุ้นความมีชีวิตชีวา เพิ่มสมาธิและความจำ และบางชนิดก็ช่วยให้นอนหลับอย่างมีความสุขอีกด้วย

กลิ่นบำบัดเพื่อความผ่อนคลายที่ปรุงเป็นพิเศษจากน้ำมันหอมระเหยจาก สมุนไพร ดอกไม้ และผลไม้ไทย ซึ่งมีคุณสมบัติในการส่งผลทางบวกต่ออารมณ์และจิตใจ ทำให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่ม เพื่อความหลากหลาย และยังใช้สีเป็นตัวแทนของกลิ่นแต่ละกลิ่น เพราะสีมีอิทธิพลต่อสภาวะจิตใจและอารมณ์ เป็นที่ยอมรับกันว่าสีนั้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อสภาวะทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ สีแต่ละสีนั้นมีระดับพลังงานที่ไม่เท่ากัน ได้มีการศึกษาลึกลงไปเพื่อนำความรู้เรื่องสีมาใช้ในการดูแลภาวะสุขภาพและใช้ ปรับภาวะสมดุลของร่างกายและอารมณ์

 

เพื่อการนอนหลับสบาย

ปรุงขึ้นพิเศษโดยใช้น้ำมันหอมระเหยจากของกลีบดอกราชินีดอกไม้ไทย 3 ชนิด คือมะลิ จำปา มะกรูด กระดังงา และลาเวนเดอร์ ซึ่งเบ่งบานและให้กลิ่นหอมรัญจวนในยามค่ำคืน คุณลักษณะพิเศษสำหรับดอกไม้เหล่านี้คือ เมื่อได้กลิ่นจะออกฤทธิ์ทำให้ประสาทผ่อนคลาย จนทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มชวนให้ง่วงนอน

นอกจากนั้น ยังมีส่วนผสมจากน้ำมันหอมระเหยของดอกลาเวนเดอร์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางถึงคุณสมบัติเด่นในการปรับสมดุลของระบบ ประสาท บรรเทาอาการตึงเครียด และผสานกับน้ำมันหอมระเหยจากใบมะกรูด ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในตำรับสุคนธบำบัดไทยแท้ได้อย่างลงตัว

ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวจะซึมซับเข้าสู่ผิวหนังได้ดี และกลิ่นที่หอมอย่างต่อเนื่องช่วยโน้มนำให้เกิดการปรับสมดุลของคลื่นสมองให้ ผ่อนคลายมากขึ้น ลดความตื่นตัวและพร้อมจะเข้าสู่วงจรของการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ หรือสเปรย์น้ำหอมสำหรับใช้ก่อนนอน บรรยกาศ และสิ่งแวดล้อมในการนอนล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เกิดการหลับได้ สนิทและลึกขึ้น การฉีดโปรยปรายก่อนเข้านอนเพียง 2-3 ครั้ง กลิ่นจะกระจายฟุ้งขึ้นทีละน้อยจนรู้สึกง่วงและเข้าสู่วงจรการหลับได้อย่าง เป็นธรรมชาติและมีคุณภาพมากที่สุด

น้ำมันนวดตัวก่อนนอนช่วยให้หลับสบายและง่ายขึ้น การนอนที่มีคุณภาพอย่างเพียงพอจะช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายและผิวพรรณที่ เกิดขึ้นตามวัย การได้นวดตัวก่อนนอนถือว่าเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีของการนอนที่มีคุณภาพ ช่วยผ่อนคล้ายกล้ามเนื้อที่อ่อนล้ามาทั้งวัน ทั้งกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองให้ทำงานได้สะดวกดีขึ้น หรือจะแค่หยด 2-3 หยุด ในน้ำอุ่นแช่ตัวตอนอาบน้ำก็จะช่วยได้มาก

การนอนเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต ทำให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อนหลังจากทำงานมาตลอดทั้งวัน ไม่มีใครเคยอดนอนได้เกิน 7 วัน เนื่องจากจะทำให้สมองไม่สามารถทนความเหนื่อยล้าได้ คนเราใช้เวลาในการนอนประมาณ 3,000 ชั่วโมงต่อปี หรือ 1 ใน 3 ของชีวิตการนอนไม่เพียงพอจะทำให้สุขภาพมีปัญหาต่างๆ ตามมา ดังนั้นควรนอนให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ตื่นมากับเช้าที่สดใสพร้อมที่จะทำงานต่อไปอย่างเต็มที่

หากคุณปวดหัวทุกวันหลังตื่นนอน หรือยังง่วงอยู่ถึงแม้ว่านอนมาแล้วหลายชั่วโมง แสดงว่าการนอนของคุณยังไม่มีคุณภาพที่ดีพอ การนอนหลับสนิทและเพียงพอจะส่งผลต่อการจัดการความเครียดและความผันผวนทาง อารมณ์ แม้ว่าคุณนอนหลับลึกเพียง 5-6 ชั่วโมง ดีกว่านอนหลับๆ ตื่นๆ ถึง 8 ชั่วโมง

 

สีม่วงช่วยการนอนหลับ : สีม่วงเป็นสีที่มีระดับพลังงานต่ำ จึงมีอิทธิพลทำให้เรามีภาวะอารมณ์ดี สงบ นุ่มนวล เหมาะที่จะใช้ในห้องนอนหรือเครื่องนอนต่างๆ เพื่อโน้มนาวให้เกิดสภาวะที่ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น

 

เพื่อความสบายใจหายเครียด

ตำรับที่เหมาะจะใช้เพื่อผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า หงุดหงิดอารมณ์เสีย ปรุงด้วยสรรพคุณที่เป็นทางบวกต่ออารมณ์และจิตใจทำให้ใจเบิกบานแจ่มใสขึ้น ได้แก่สะระแหน่ที่ช่วยปลุกให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สมองปลอดโปร่ง กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ พริกไทยดำ กลิ่นที่หอมเย็นจะช่วยใจจิตใจสงบและสดชื่นขึ้น อย่าง การบูร และ พิมเสน ความหอมเย็นด้วยกลิ่นแบบไทยๆ จะช่วยบรรเทาความเครียดและช่วยทำให้จิตใจแจ่มใสขึ้น

ความเครียดและอ่อนล้ามักส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณต้นคอและ หัวไหล่เสมอ การนวดตรงจุดนี้มักจะทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายได้ทันที

สีน้ำเงินเพื่อความปลอดโปร่งโล่งใจ : สีน้ำเงินสื่อถึงท้องฟ้า ผืนน้ำ จึงเป็นสีที่มีการเชื่อมโยงอย่างเด่นชัดถึงความสบาย ผ่อนคลายความตึงเครียด ทำให้เกิดอารมณ์ สบายใจ สบายอารมณ์

 

เพื่อความสงบสมดุลทางอารมณ์

โดยธรรมชาติเมื่อเราสูดดมกลิ่นหนึ่งกลิ่นใดเข้าไปในจมูก กลิ่นจะเดินทางไปยังต่อมรับกลิ่น ที่อยู่ส่วนบนของโพรงจมูก จากนั้นจะส่งสัญญาณไปยังสมอง ซึ่งเก็บความทรงจำของกลิ่นที่ได้รับมาก่อน เมื่อได้รับกลิ่นนั้นๆ อีกครั้งก็จะทำให้หวนรำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เคยประสบพร้อมๆ กับการได้กลิ่นนั้น

การเลือกสรรพืชสมุนไพรในสูตรนี้ จะมุ่งเน้นกลุ่มที่ให้คุณสมบัติเพื่อช่วยระงับความตื่นเต้น เครียด ปวดศีรษะ วิตกกังวล การปรับสมดุล อารมณ์ ช่วยให้สงบผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งจากตะไคร้ เพื่อบรรเทาความเครียด ความอ่อนเพลียทางจิตใจ มะกรูด ให้ความสดชื่น บรรเทาอาการหดหู่ จำปา ทำให้อารมณ์สงบ ขจัดความโกรธ ช่วยสร้างความมั่นใจ ยูคาลิปตัส ซึ่งมีกลิ่นหอมเย็น มีประโยชน์อย่างมากต่อระบบทางเดินหายใจ ที่ส่งผลต่อจิตใจและอารมณ์จะช่วยทำให้อารมณ์เย็นขึ้น ระงับความตื่นเต้นทำให้รู้สึกสบายขึ้น

การใช้บาล์มสำหรับนวดที่ขมับ หรือสูดดมเพื่อความสงบผ่อนคลาย ด้วยเนื้อบาล์มและน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ มะกรูด จำปา ยูคาลิปตัส ที่ให้คุณสมบัติเพื่อช่วยระงับความตื่นเต้น เครียด วิตกกังวล การปรับสมดุล อารมณ์ เพียงแตะเนื้อบาล์มและถูที่นิ้วกลางทั้งสองข้างให้เข้ากัน จากนั้นจึงนำไปแตะนวดเบาๆ เป็นวงกลมที่ขมับ ต้นคอ กลางหน้าผาก พร้อมสูดหายใจเข้าลึกๆ จะรู้สึกว่าสงบ ผ่อนคลายมากขึ้น

สีเขียวแห่งความสงบ : เป็นสีที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ สะท้อนความสมดุล ถ้าดูจากลำดับของสีรุ้ง (ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง) สีเขียวเป็นสีที่อยู่ตรงกลางจึงเป็นสีที่มีความสมดุลอยู่ในตัว จึงช่วยปรับความสมดุลทางอารมณ์ ลดระดับความตื่นเต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เพื่อความมีสมาธิในการทำงาน

พืชและสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเด่นที่ช่วยกระตุ้นให้สมองปลอดโปร่ง มีสมาธิ เสริมความจำ และตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการสมาธิ ด้วยสมุนไพรไทยจากพริกไทยดำ มะกรูดที่ช่วยให้ความสดชื่นบรรเทาความหดหู่ มะนาว นอกจากให้กลิ่นที่สะอาดและหอมสดชื่น ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยเสริมสร้างสมาธิ ทำให้เกิดการตื่นตัว ถ้าใช้นวดจะทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และโหระพา ช่วยเสริมสร้างสมาธิและความจำ

สีเหลืองช่วยเรื่องสมาธิ : ได้มีการเชื่อมโยงสีเหลืองกับ กับกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิด สติปัญญา การคิดวิเคราะห์ สีเหลืองมีอิทธิพลอย่างมากในการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ลดการสับสนทางความคิด เป็นสีที่ดีสำหรับใช้ในการเปิดสมอง (Clear Foggy head) ทำให้โล่งขึ้น คิดได้เร็วขึ้น

เพื่มความมีชีวิตชีวา

กลิ่นนั้นมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกเป็นอย่างยิ่ง เกท ลีฟลี จึงได้คัดสรรน้ำมันหอมระเหยเช่น ขิง ส้ม มะนาว ที่ล้วนเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยและยอมรับกันดีว่า ทุกครั้งที่ได้สูดดมดูเหมือนจะกระตุ้นให้เกิดสารแห่งความสุขขึ้นในร่างกาย และปลุกความมีชีวิตชีวาได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นตำรับนี้จึงเหมาะสำหรับที่จะเติมพลัง สร้างความสดชื่นมีชีวิตชีวา

สีส้มเพื่อความเริ่งร่า : เป็นสีที่กระตุ้น ให้ตื่นตัวมีพลังมากขึ้น (Get Lively) ทำให้เกิดความกระตือรือร้น ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหว ช่วยยกระดับพลังงานของร่างกาย สีส้มเชื่อมโยงกับภาวะอารมณ์ดี

เมื่อมีปัญหาในเรื่องอารมณ์-ความรู้สึก กลิ่นเหล่านี้สามารถช่วยบำบัดอาการของคุณได้ในเบื้องต้น เพื่อให้รู้สึกดีและผ่อนคลายด้วยน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพร ดอกไม้และผลไม้ของไทย ดังนั้นการสร้างความรู้สึกให้ดีขึ้นเป็นเรื่องง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวคุณ

 

ที่มา: http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=8490

พญ.กอบกาญจน์ ไพบูลย์ศิลป

 

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทั้งหลาย บทความนี้สำหรับคนที่นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย นอนยากแต่อยากนอน ส่วนคนที่นอนดีอยู่แล้วก็อ่านได้ค่ะอย่างน้อยเป็นแนวทางป้องกันไม่ให้เรา เกิดปัญหานอนไม่หลับในอนาคตนะคะ เพราะคนที่ไม่เคยมีปัญหานอนไม่หลับนั้น ไม่มีทางรู้หรอกค่ะ ว่ามันทรมานทรกรรมขนาดไหน นอกจากนี้อาจมีโรคอื่นตามมาอีกเป็นโขยง อย่างนี้เห็นทีต้องรีบแก้ไขกันแล้ว
ก่อนอื่นเรามาเรียนรู้ภาวะปกติของการนอนกันก่อนดีกว่าค่ะว่าเป็นอย่างไร
ในสมองของคนเรามีต่อมเหนือสมองอยู่ 1 ต่อมเรียกว่าต่อม ไพเนียล หรือนาฬิกาชีวภาพ(Biological clock)ประจำร่างกายทำงานตามความมืด ความสว่างภายนอก โดยต่อมนี้มีหน้าที่ ควบคุมการหลั่งของฮอร์โมนที่ควบคุมการตื่นและหลับของร่างกายนั่นก็คือ ฮอร์โมนเซโรโทนิน และเมลาโทนิน
ฮอร์โมนเซโรโทนิน มีหน้าที่ทำให้สมองตื่นตัว ต้อนรับวันใหม่ โดยจะเริ่มหลั่งตอนตี 2 และลดระดับลงหลังเที่ยงวัน
ส่วนฮอร์โมนเมลาโทนิน มีหน้าที่ทำให้เกิดการนอนหลับ โดยจะหลั่งออกมาตั้งแต่ บ่าย4 โมงแล้วจะลดระดับลงอีกทีตอนตี 2 ดังนั้นในคนปกติ มักจะเริ่มง่วงตอน3-4 ทุ่มซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเมลาโทนินหลั่งมาสูงสุดของวัน

ดังนั้นความสามารถในการนอนหลับจึงขึ้นอยู่กับฮอร์โมนเมลาโทนินที่หลั่งมาใน แต่ละวันนอกจากนี้ ช่วงอายุก็มีส่วนเกี่ยวกับปริมาณการหลั่งของฮอร์โมนเมลาโทนินด้วยนะคะ
ดูได้ตามตารางจะเห็นว่าในเด็กแรกเกิด การหลั่งของฮอร์โมนไม่สม่ำเสมอ ดังนั้น ทารกจึงนอนไม่เป็นเวลา ตื่นบ่อยตอนกลางคืน จนถึงอายุ 5 ปี ฮอร์โมนเมลาโทนินจึงหลั่งมาปกติจนถึงอายุประมาณ 15 ปี จะสังเกตว่า เด็กอายุช่วงนี้จะไม่มีปัญหานอนไม่หลับเลยจากนั้น ฮอร์โมนเมลาโทนินจะลดระดับลงมาเรื่อย ๆ จนเริ่มมีปัญหาเรื่องการนอนอีกครั้งหลังอายุประมาณ 60 ปี

อันนี้เป็นธรรมชาติของฮอร์โมนค่ะ ส่วนใครที่อายุเลย 60 แล้วยังนอนหลับดีไม่มีปัญหาก็ถือว่าโชคดี ยินดีด้วยค่ะ
การนอนไม่หลับมักมีสาเหตุ
ส่วนมากอาการนอนไม่หลับมักมีที่มาที่ไป อีกนัยหนึ่งก็คือมีสาเหตุต่าง ๆถึง 80% เชียว อีก 20% เป็นการนอนไม่หลับแบบไม่ทราบสาเหตุอาจเป็นการหลั่งไม่ปกติของฮอร์โมนส่วนที่ เหลือมักมีสาเหตุที่พบได้บ่อยได้แก่
อาการเจ็บป่วยเรื้อรัง
เช่นเบาหวาน ,ต่อมลูกหมากโต ทำให้เกิดการปัสสาวะบ่อยเวลากลางคืน โรคถุงลมโป่งพอง หอบหืด หรือมะเร็งปอด ทำให้หายใจลำบาก ไอมากตอนกลางคืนได้ นอกจากนี้ที่พบได้บ่อยคือในคนอ้วน มักจะกรน หายใจได้ไม่ดี จนถึงมีการหยุดหายใจเลยก็มี ทำให้สะดุ้งตื่นบ่อย ๆตอนกลางคืน
ความเจ็บปวด
โดยเฉพาะอาการปวดจากมะเร็ง ปวดเส้นประสาท ปวดกระดูก กล้ามเนื้อเรื้อรังโดยที่ยังรักษาไม่หาย ปวดแผลผ่าตัด เป็นต้น
ยาบางชนิด
เช่นยาลดน้ำมูกบางตัว ทำให้นอนไม่หลับได้
ชา กาแฟ เครื่องดื่มน้ำดำ บุหรี่
เพราะว่ากาแฟและเครื่องดื่มเหล่านี้มีคาเฟอีน โดยคาเฟอีนนี้จะไปแย่งกันจับกับตัวรับในสมองแทนที่ ฮอร์โมนอะดีโนซีน ซึ่งปกติฮอร์โมนนี้ทำให้เกิดความง่วง ดังนั้นเมื่อถูกคาเฟอีนแทนที่จึงเกิดการนอนไม่หลับได้
ซึมเศร้า วิตกกังวล
เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ที่ทำให้นอนไม่หลับ
เปลี่ยนเวลานอน เปลี่ยนสถานที่
เช่นเดินทางบ่อย ข้ามทวีป ทำให้นาฬิกาชีวภาพปรับตัวไม่ทัน เลยเป็นสาเหตุของการนอนไม่หลับในคืนแรก ๆ ได้
ถ้าคุณมีปัญหานอนไม่หลับ วิธีแก้ไขง่าย ๆ ตามแนวธรรมชาติบำบัดคือ
1. ปรับอาหาร

  • สิ่งที่ควรงดเลยก็คือ ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน โกโก้ โคล่า
  • อย่ากินอาหารมื้อหนักเกินไปในตอนเย็นทำให้นอนยากขึ้น
  • อย่ากินอาหารย่อยยาก หรือกินใกล้เวลานอนมากเกินกว่า 3 ชั่วโมง
    2. การออกกำลังกาย
    จะช่วยให้การนอนง่ายขึ้น โดยเฉพาะ การฝึกโยคะ ชี่กง
    3. ปรับห้องนอนให้น่านอน
    โดยการทำความสะอาดอยู่เสมอ ให้ความสำคัญกับตำแหน่งของเตียง ที่นอน หมอนอุณหภูมิ แสงไฟ เสียงรบกวน
    4. การทำจิตสงบ ฝึกสมาธิ สวดมนต์ก่อนเข้านอน
    การฝึกลมหายใจให้ทอดยาว จะช่วยผ่อนคลายความเครียด ถ้าทำนานพอและถูกวิธีจะทำให้เกิดสมดุลในร่างกายช่วยให้เข้านอนง่ายขึ้น
    5. การใช้วิตามิน อาหารเสริมและ สมุนไพร
    วิตามินบี :: ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า
    วิตามินซี :: ใช้วิตามินซีชีวภาพ 1000 มก. ครั้งละ 1 เม็ดวันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า- เที่ยง
    แคลเซี่ยมและแมกเนเซี่ยม :: 800 มก. ครั้งละ 2 เม็ดวันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร
    เมลาโตนิน :: 1.5-3 มก. หลังอาหารเย็น
    6. อาหารช่วยนอน
    ได้แก่ ดอกไม้จีน ขี้เหล็ก โสม เอามาประกอบอาหารหรือทำเป็นเครื่องดื่ม เช่น ชาดอกไม้จีน
    7. วารีบำบัด
    เช่นการแช่น้ำอุ่น ซาวน่า อบสมุนไพรช่วยให้นอนหลับสบาย
    8. สุคนธบำบัด (Aroma therapy)
    เช่นกลิ่นกระดังงา, กุหลาบ ,มะลิ ,Lavender Chamomile เป็นต้น
  •  

    ที่มา: http://www.one2night.com/health/sleep/index.html

    เป็นกฎง่ายๆ ที่บางครั้งเหมือนเส้นผมบังภูเขา ทำตามได้ไม่ยาก เพื่อให้เว็บไซต์เป็นที่ดึงดูดของผู้ใช้มากที่สุด
    กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ : กฎ 23 ข้อดังต่อไปนี้ เป็นการวิจัยของ 3 สถาบัน ได้แก่ The Poynter Institute, the Estlow Center for Journalism & New Media, และ Eyetools ภายใต้โครงการ “The Eyetrack III” ซึ่งศึกษาถึงกลยุทธ์การออกแบบเว็บไซต์เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ให้มากที่สุด
    1. ตัวอักษรดึงดูดความสนใจได้เร็วกว่าภาพหรือกราฟฟิค
    2. จุดแรกที่สายตามองคือ มุมซ้ายบนของหน้าเว็บ
    3. ผู้ใช้จะมองไปที่มุมซ้ายบนของเว็บไซต์ ก่อนที่จะเลื่อนสายตาลงมาด้านล่างขวาเรื่อยๆ
    4. ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่สนใจมองแบนเนอร์โฆษณา
    5. รูปแบบเว็บไซต์และตัวอักษรที่มีสีสันสะดุดตา มักไม่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้
    6. แสดงข้อมูลเป็นตัวเลข จะดึงดูดสายตามากกว่าเขียนเป็นตัวอักษร
    7. ขนาดตัวอักษรมีผลต่อพฤติกรรมการใช้เว็บ โดยตัวอักษรเล็กๆ จะทำให้คนอ่านอย่างละเอียด ขณะที่ตัวอักษรใหญ่ ทำให้คนมองเป็นอันดับแรก
    8. คนส่วนใหญ่อ่านพาดหัวรอง ในกรณีที่น่าสนใจจริงๆ
    9. คนมักจะอ่านส่วนล่างของหน้าเว็บแบบผ่านๆ
    10. ประโยคหรือย่อหน้าสั้นๆ ดึงดูดความสนใจของคนอ่านมากกว่า
    11. รูปแบบเว็บไซต์ที่มีแถวแนวตั้งแถวเดียว ดึงดูดสายตามากกว่าหลายแถว
    12. แบนเนอร์โฆษณาที่อยู่บริเวณบนสุดและซ้ายสุด จะดึงดูดสายตามากที่สุด
    13. การวางโฆษณาใกล้กับคอนเทนท์ที่ดีที่สุด จะได้รับความสนใจจากผู้ใช้ค่อนข้างมาก
    14. โฆษณาแบบตัวอักษรได้รับความสนใจมากกว่าโฆษณาแบบภาพหรือกราฟฟิค
    15. ภาพยิ่งใหญ่ ยิ่งดึงดูดความสนใจได้มาก
    16. ภาพที่ชัด ดูง่าย และถ่ายบุคคลจริงๆ จะได้รับความสนใจจากคนดู มากกว่าภาพประเภทดีไซน์จัดๆ ภาพนามธรรม (abstract) หรือภาพนายแบบ-นางแบบ
    17. หน้าเว็บไซต์ก็เหมือนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ เพราะฉะนั้น พาดหัวจะได้รับความสนใจมากที่สุด
    18. คนส่วนใหญ่มักจะสนใจหัวข้อและเมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
    19. ถ้ามีบทความยาวๆ ในเว็บไซต์หรือบล็อก หากแยกเนื้อหาออกเป็นข้อๆ จะได้รับความสนใจจากผู้อ่านมากขึ้น
    20. ผู้ใช้มักจะไม่อ่านบทความที่ติดกันยาวๆ หลายบรรทัด ดังนั้น ถ้าบทความยาวมาก ควรแตกเป็นย่อหน้าย่อยๆ
    21. การดึงความสนใจของคนให้อ่านบทความ ให้มากและนานที่สุด คือการใช้รูปแบบตัวอักษรที่แตกต่างกันไป เช่น ตัวหนา ตัวใหญ่ ตัวเอียง ตัวขีดเส้นใต้ หรือตัวอักษรสีต่างๆ แต่ไม่ควรใช้มากเกินไป เพราะทำให้ผู้อ่านหมดความสนใจเช่นกัน
    22. เว้นที่ว่างบนหน้าเว็บบ้างก็ดี ไม่ต้องใส่ข้อมูลหรือภาพบนทุกอณูของเว็บก็ได้
    23. ปุ่ม navigation ควรวางไว้บนสุดของหน้าเว็บ เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ได้ง่ายที่สุด

    image

     

    อุปกรณ์ขนาดจิ๋วที่เหน็บเข้ากับกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงได้ จะคอยติดตามการใช้ชีวิตของคุณ และเตือนเมื่อสุขภาพคุณเริ่มแย่

    กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : โดย บารมี นวนพรัตน์สกุล

    อุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้มีชื่อว่า Fitbit เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ในงาน TechCrunch50 ในเมืองซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    โดย Fitbit ทำหน้าที่เป็นเหมือนหมอประจำตัว ที่จะติดตามสุขภาพของผู้ใช้ในทุกนาที เพื่อวัดค่าต่างๆ เช่น แคลลอรี่ที่ถูกใช้ไปในแต่ละวัน หรือจำนวนชั่วโมงการนอนหลับ ซึ่งบ่งบอกว่าผู้ใช้ออกกำลังกายหรือนอนหลับเพียงพอหรือไม่

    ทั้งนี้ Fitbit จะแสดงผลเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ดอกไม้ โดยดอกไม้จะบานถ้าผู้ใช้กินอาหารแคลลอรี่ต่ำ เช่น สลัด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนหลับอย่างเพียงพอ แต่ถ้ากินชีสเบอร์เกอร์เป็นมื้อเย็น ไม่ออกกำลังกาย และนอนดึก Fitbit ก็จะแสดงสัญลักษณ์เป็นดอกไม้เฉา เป็นต้น

    ด้าน James Park ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร Fitbit บอกว่า แรงบันดาลใจของการสร้างอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็คือ ต้องการส่งเสริมให้คนอเมริกันลุกออกจากโซฟา แล้วไปออกกำลังกายเสียบ้าง รวมถึงต้องการให้คนกินอาหารที่ดีขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย

    “ผมมีแนวคิดนี้ขึ้นมาเพราะ เมื่อก่อนผมสุขภาพไม่ดี ตอนตั้งบริษัทใหม่ๆ เมื่อ 3 ปีก่อน ผมทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง และเริ่มรู้สึกว่าไม่ได้การล่ะ ผมต้องออกกำลังกายบ้างแล้ว ซึ่งหลังจากที่คิดค้น Fitbit ขึ้นมาและนำติดตัวตลอด 2 เดือนครึ่ง น้ำหนักก็ลดลงเกือบ 7 กิโลกรัมเลยทีเดียว”

    Fitbit เป็นอุปกรณ์ไร้สาย ขนาดเล็กเท่าหัวแม่มือ มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวคล้ายๆ กับเซ็นเซอร์ของ Nintendo Wii นั่นเอง โดยเซ็นเซอร์นี้จะจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ตลอดเวลา และส่งข้อมูลอัพโหลดไปยังเว็บไซต์ fitbit.com

    ด้วยรูปร่างที่ดูทันสมัยและไม่เกะกะ ทำให้ผู้ใช้สามารถเหน็บ Fitbit ติดตัวได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่กระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากางเกง โดย Fitbit จะตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกาย จำนวนแคลลอรี่ที่ใช้ การก้าวเดิน ระยะทางที่เคลื่อนไหว และจำนวนชั่วโมงการนอนหลับ

    เมื่อข้อมูลถูกส่งไปยังเว็บไซต์ fitbit.com แล้ว ผู้ใช้ก็สามารถเข้าไปใส่ข้อมูลอาหารที่กินเข้าไป และระบบก็จะคำนวณและประเมินสุขภาพโดยรวมของผู้ใช้ออกมาได้

    แม้ว่าการใส่ข้อมูลอาหารและของว่างใน เว็บ จะเป็นเรื่องเสียเวลาและน่าเบื่ออยู่บ้าง แต่ James Park บอกว่า สำหรับคนที่เอาใจใส่เรื่องสุขภาพอย่างจริงจังแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรเลย

    นอกจากนี้ ในอนาคต James Park มีแผนที่จะเปิดตัวบริการพิเศษ เอาใจคนที่ต้องการใช้ Fitbit ตรวจวัดและประเมินสุขภาพเป็นรายบุคคล โดยจะเป็นการตรวจวัดที่มีรูปแบบเฉพาะสำหรับผู้ใช้แต่ละคนเลยทีเดียว

     

    ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ 11 กันยายน พ.ศ. 2551



    นวัตกรรมล่าสุดจาก Microsoft เมาส์ที่ใช้ได้ทุกสภาพพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นพรม ไม้ กระจก โดยใช้แสงเลเซอร์สีฟ้าแทนสีแดง

    กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : โดย บารมี นวนพรัตน์สกุล

    เมาส์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ วิจัยพัฒนาโดย Microsoft ภายใต้ชื่อ Blue Track Mouse Technology ซึ่งขณะนี้ถือเป็นเทคโนโลยีการผลิตเมาส์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก

    Mark DePue
    วิศวกรฝ่ายฮาร์ดแวร์ของ Microsoft เล่าให้ฟังว่า
    เมาส์ชนิดนี้สามารถใช้ได้ทุกพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้ พรม หินอ่อน
    กระจก หรือที่ไหนก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ให้ผลแม่นยำ
    ซึ่งประกอบด้วยส่วนหลักๆ ได้แก่

    Microsoft-Designed CMOS Chip เป็นชิพแบบ CMOS ของ Microsoft ซึ่งพัฒนามาจนถึงรุ่นที่ 4 แล้ว โดยให้ค่าการทำงานที่แม่นยำกว่ารุ่นที่ผ่านๆ มา

    Blue Specular Optics
    เป็นเลนส์สีฟ้า ซึ่งจะรับภาพที่แสดงผลของพื้นผิวได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
    แม้กระทั่งพื้นผิวมันเงา เช่น หินอ่อนหรือกระจก
    ขณะที่แสงสีฟ้าจะทำให้ภาพสะท้อนของพื้นผิวมีความคมชัดสูงกว่าสีแดงที่ใช้กัน
    ในเมาส์ทั่วๆ ไป โดยเฉพาะพื้นผิวที่อยู่ภายใต้แสงฟลูออเรสเซนต์
    เลเซอร์สีฟ้าจะสะท้อนภาพได้ชัดกว่าแสงสีแดง
    ลองสังเกตอุปกรณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือกองพิสูจน์หลักฐานใช้หาลายนิ้วมือ
    หรือคราบเลือดในที่เกิดเหตุอาชญากรรมกัน จะเห็นว่าใช้อุปกรณ์ที่มีแสงสีฟ้า

    4x Diffuse Beam
    ลำแสงเลเซอร์กว้างกว่าเมาส์ปกติถึง 4 เท่า
    ทำให้เกิดแสงสะท้อนเพื่อส่งข้อมูลกลับมาได้มากขึ้น
    ส่งผลให้สามารถใช้งานบนพื้นผิวที่ไม่ปกติได้ เช่น พื้นพรม
    ซึ่งเมาส์ปกติที่มีลำแสงเลเซอร์แคบกว่า
    จะสับสนในเรื่องพื้นผิวเพราะสะท้อนข้อมูลของเส้นพรมแต่ละเส้นแทน

    Inchoherent Blue Light
    เมาส์ปกติจะมีการส่งลำแสงเลเซอร์ออกมาอย่างต่อเนื่อง
    เมื่อวางบนพื้นผิวที่สกปรกหรือมีฝุ่น ก็จะขัดขวางการส่งสัญญาณข้อมูล
    ทำให้การทำงานผิดพลาดได้ง่าย แต่การส่งลำแสงเลเซอร์ของ Blue Track Mouse
    นี้เป็นแบบไม่ต่อเนื่อง ดังนั้น มันจึงไม่อ่อนไหวต่อพื้นผิวที่มีฝุ่น
    และสามารถส่งข้อมูลได้อย่างมีคุณภาพ

    ส่วนสาเหตุที่ปิ๊งไอเดียในการพัฒนา
    เมาส์แบบใหม่นี้ขึ้นมา เกิดจาก Mark DePue
    สังเกตเห็นภรรยาที่ต้องเลี้ยงลูกขณะกำลังใช้โน้ตบุ๊คทำงานไปด้วย
    เวลาลูกซนและวิ่งทั่วบ้าน เธอก็จะย้ายจุดตามลูกไป
    ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์หินอ่อนในห้องครัว หรือพื้นพรมในห้องนั่งเล่น
    ซึ่งก็ทำให้เกิดความลำบากในการทำงาน เพราะเมาส์ใช้งานไม่ได้เลย

    สำหรับ Blue Track Mouse
    นี้จะออกวางตลาดเมื่อไหร่นั้น Mark DePue ยังไม่เปิดเผยแต่อย่างใด
    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มันถูกนำมาใช้ในบางหน่วยงานของ Microsoft แล้ว

    ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

    ออร่าคืออะไร
    คำว่าออร่ามาจากภาษาลาติน แปลว่า อากาศ

                    
    มาจากภาษากรีก    แปลว่าลมหายใจ

    หลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับออร่า
    - แสงฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าที่เราเห็นตามฝาผนังโบสถ์
    - ภาพรัศมีของพวกนักบุญฝรั่ง


      ส่วนหลักฐานที่จารึกเป็นลายลักษณ์อักษร พบในยุโรปประมาณเกือบ 1,000 ปีมาแล้ว โดยกล่าวถึงออร่าว่า มี 4 จำพวกคือ

    1. นิมบัส Nimbus มีลักษณะเป็นหมอก
    2. ฮาโล Halo เป็นรัศมี

    3. ออเรโอลา Aureola เป็นแสงรอบตัว
    4. กลอรี่ Glory เป็นแสงที่รวมเอาแสงที่ศีรษะและรอบตัวเข้าด้วยกัน (ภาพ)

    แสงออร่าไม่ใช่เรื่องใหม่

      หลายๆ คนอาจจะมองออร่าไม่เห็น แต่ทุกคนสามารถรับข้อมูลและความรู้สึกจากแสงออร่าของผู้อื่นได้ จากประสบการณ์ดังนี้

    1. รู้สึกสดชื่นหรือห่อเหี่ยว เมื่อได้ยินเสียงใครบางคน
    2. รู้สึกว่าเพื่อนคุณสวยหรือหล่อเป็นพิเศษ เมื่อสวมเสื้อผ้าสีใดสีหนึ่ง

    3. รู้สึกว่าคุณสดชื่นขึ้นเมื่อสวมเสื้อผ้าสีใดสีหนึ่ง
    4. รู้สึกว่ามีคนจ้องมองอยู่ เมื่อเหลียวกลับไปก็มีคนจ้องอยู่จริง

    5. รู้สึกชอบหรือเกลียดขี้หน้าคนบางคน ทั้งๆ ที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก
    6. รู้สึกโกรธหรือสงบเมื่อย่างเท้าเข้าไปในสถานที่บางแห่ง

    7. รู้สึกว่าคนที่คุยด้วยไม่จริงใจกับคุณ และภายหลังคุณพบว่าความรู้สึกนั้นถูกต้อง


      ถ้าคำตอบเหล่านี้คือ ใช่ แสดงว่าคุณสามารถสัมผัสออร่าได้ และหากฝึกฝนคุณก็สามารถสัมผัส ได้ด้วยตา มือ จิต และอ่านความหมายได้
    รวมไปถึงหากดูแลรักษาสุขภาพ แสงออร่าของตัวเอง จะช่วยให้ร่างกายคุณ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมีแต่ความสุขกายสบายใจ

    สีของออร่าและความหมาย

       มี 2 ประเภท
       1. สีของความคิดและอารมณ์

           จะมีลักษณะเป็นหมอก มีความไหลปรากฏเป็นหย่อมๆ
    จะเห็นได้ชัดเจนบริเวณรอบศีรษะ และเหนือบ่า มีสีสันต่างๆ เช่น
        1.1 สีชมพู หมายถึงพลังที่แจ่มใส เต็มไปด้วยความรัก
    อารมณ์ขัน ถ่อมตนสามารถ ปลอบประโลม ผู้อื่น โรแมนติก ข้อเสียคือมักจะใจคอโลเล

        1.2 สีแดง เป็นสีที่แสดงถึงความทะเยอทะยาน เต็มไปด้วยพลังงาน มีความกระฉับกระเฉง และ มีพลังทางเพศ ถ้าเป็นสีแดงมืดอาจหมายถึงอารมณ์รุนแรง
    ถ้าเป็นสีแดงสดใสหมายถึงความ ภาคภูมิใจ และทะเยอทะยานในทางที่ถูกที่ควร ถ้าสีแดงขุ่นเป็นพวกใจคอโหดร้าย

        1.3 สีส้ม / แสด
    เป็นสีของความกระฉับกระเฉงว่องไว มีความสุข สุขภาพ ที่เต็มไปด้วยพลัง
    ถ้ามีแสงสีนี้มากเกินไปจะกลายเป็นคนเย่อหยิ่ง
    สีนี้ยังเป็นสีที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อด้วย

        สีส้มมัวหม่น หรือ ส้มปนน้ำตาล แสดงถึงปัญญาต่ำ ถ้าสีส้มแดงหมายถึง เย่อหยิ่ง อวดฉลาด

        1.4 สีเหลือง
    เป็นสีที่มองเห็นง่ายที่สุดในออร่า เป็นสีของความฉลาดความเมตตา
    มองโลกในแง่ดี รักเพื่อนมนุษย์ นอกจากนั้นยังเป็นสีของภูมิคุ้มกันโรค
    สีเหลืองอมส้มแสดงถึง ความฉลาด - ปราดเปรื่อง
    สีเหลืองขุ่นค้นแสดงถึงความอิจฉาริษยา หรือความคลางแคลงใจ

        1.5 สีเขียว เป็นสีของจิตใจที่ละเอียดอ่อน มีความเข้าใจผู้อื่น นอกจากนั้นยังเป็นสีของ ความรัก การเปลี่ยนแปลง
    การรักษาโรค ความสามารถในการใช้มือ และยังเป็นสีที่แสดงถึงความสมดุล

        ถ้าเป็นสีเขียวสดใสแสดงว่าเป็นคนปรับตัวเก่ง ใจดี ชอบอิสระ
    ถ้าเป็นสีเขียวมืดจะเป็นพวกขี้โกง ขี้อิจฉา
    ถ้าเป็นสีเขียวอมฟ้าเป็นพวกชอบช่วยเหลือผู้อื่นไว้วางใจได้
    เข้าอกเข้าใจผู้อื่น และแสดงถึงความสามารถในการรักษาโรค
    ถ้าเป็นสีเขียวขี้ม้าเป็นพวกชอบหลอกลวง ต้มตุ๋น ขี้โกง และขี้เหนียว

        1.6 สีน้ำเงิน
    เป็นสีของความสงบและสัจจะ เป็นสีของการสื่อสาร พลังจิตความฉลาด
    ความมีอุดมคติ ขยันขันแข็ง ความสำเร็จ สามารถยืนหยัดอยู่บนขาของตัวเอง
    มีความเชื่อมั่นในตนเอง ซื่อตรง จริงใจ และชอบช่วยเหลือผู้อื่น
    มักจะเป็นพวกสมถะ แต่ใจคอหงุดหงิดง่าย

        สีน้ำเงินขุ่นแสดงว่าทัศนะวิสัยถูกปิดกั้น กลายเป็นคนขี้กังวล และขี้ลืม

        1.7 สีคราม เป็นสีของพลังจิต สัมผัสที่ 6 โทรจิต ความฉลาดล้ำลึกความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
    มีความจริงใจ ชอบค้นหาสัจจะความจริงของชีวิต
        1.8 สีม่วง เป็น
    พวกจิตละเอียดอ่อน เป็นตัวของตัวเอง มีสัมผัสที่ 6 ชอบทางสมาธิ
    และโน้มเอียงไปทางศาสนา ชอบเรื่องลี้ลับ คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีสีนี้
    ผู้ที่มีสีนี้มักจะมีพลังจิตสูง แต่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับบริเวณท้อง
    เนื่องจากจักระช่วงบนพัฒนาล้ำหน้าจักระช่วงล่าง
        1.9 สีน้ำตาล
    เป็นสีที่แสดงถึงความคิดแคบๆ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
    เห็นแก่ตัว ชอบคุยแต่เรื่องตัวเอง เป็นคนน่าเบื่อ
    สีน้ำตาลยังเป็นสีของจักระเท้า พลังธรณี และอดีตที่ผ่านมา

        ข้อดีของสีนี้คือ เป็นสีของความขยันขันแข็ง ความมีระเบียบ
    และอาจหมายถึงความมุ่งมั่นที่จะให้สู่จุดมุ่งหมาย และความสำเร็จ

        1.10 สีดำ
    หมายถึง การสิ้นสุด ซึ่งในที่นี้หมายถึง การสิ้นสุดของสถานการณ์หนึ่ง
    เพื่อเปิดโอกาสให้สถานการณ์ใหม่เข้ามา อาจหมายถึงการเกิดใหม่
    หรือความล่าช้าก็ได้ บางครั้งอาจหมายถึง โรคร้ายแรง หรือโรคเรื้อรัง
    อิทธิพลมืด บางครั้งอาจหมายถึงการปกป้องตัวเองจากพลังภายนอก
    หรือคนผู้นั้นอาจจะมีความลับ ถ้าสีดำเกิดปะปนอยู่กับสีอื่นๆ เช่น สีแดง
    แสดงถึงความโกรธ เกลียด อาฆาต พยาบาท สีเหลือง แสดงถึงความคิดชั่วร้าย
    สีเขียวหมายถึง ความคิดหักหลัง อิจฉา

        1.11 สีขาว
    เป็นสีที่มีความสมดุล และสมบูรณ์แบบมากที่สุด จะปรากฏกับพวกนักบุญ พระ
    หรือ ผู้ฝึกสมาธิวิปัสสนาสม่ำเสมอ
    ถ้าปรากฏเป็นเส้นแสงสีขาวผ่านเข้ามาในแสง อาจหมายถึงข่าวสาร
    จากมิติอื่นเข้ามา พวกที่เข้าทรงจะมีสีขาวเข้ามาในแสงระหว่างการเข้าทรง

       ผู้ที่มีสีขาวปรากฏอยู่ในออร่า หมายถึง
    กายแสงได้รับการชำระและฟอกให้บริสุทธิ์ หรืออาจหมายถึง
    สภาพจิตใจที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และบริสุทธิ์

        1.12 สีเงิน หมายถึงแรงบันดาลใจ หรือข่าวสารข้อมูลจากโลกวิญญาณ หรือจากมิติอื่น

        1.13 สีทอง เป็นพลังของจักรวาล หรือพลังจากเทพที่เข้ามาช่วยถ่ายโรคออกจากร่างกาย

        1.14 สีเทา เป็นพวกขาดจินตนาการ คร่ำครึ หัวโบราณ ยึดถือความคิดตนเป็นใหญ่ เจ้าระเบียบ

        ถ้าเป็นสีเทามืด ยิ่งมืดทึบมาก ยิ่งแสดงถึงอารมณ์ที่เหี่ยวเฉา
    สลดหดหู่ คนพวกนี้มักจะว้าเหว่
    ถ้ามีจุดมืดสีนี้ในแสงแสดงถึงโรคอวัยวะที่มีปัญหา หรืออิทธิพลมืด

        ถ้ามีจุดสีแดงอยู่ในเงามืดของแสง แสดงถึงความคิดแง่ลบ ได้แก่ ความเกลียด เคียดแค้น หรือ แม้แต่อารมณ์ฆาตกร
    สีเทาค่อนไปทางสีเงิน แสดงถึงว่าสมองซีกขวาได้รับการกระตุ้นก่อให้เกิด จินตนาการและ สัมผัสที่ 6

            สีที่ไม่ค่อยปรากฏอยู่ด้วยกันคือสีน้ำเงินกับสีแสด
    ถ้าใครมีสองสีนี้อยู่ด้วยกัน จะเป็นคนที่น่าอิจฉา
    เพราะสีน้ำเงินเป็นสีของความสงบ และสีแดงเป็นสีของความสุข
    คุณจะมีแต่ความสงบสุขทางจิตใจ


        2. สีพื้นฐานของออร่า
        จะทราบอย่างไรว่าเรามีสีพื้นฐานของออร่าเป็นสีอะไร

        ง่ายนิดเดียว เพียงคำนวณตามสูตร นำวัน เดือน ปี ค.ศ. ที่เกิด มาบวกกัน

    สมมุติว่า เกิดวันที่ 5 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1960
    ก็นำเลขทั้งหมดมาบวกกันคือ 5 + 5 + 1960 = 1970

    จากนั้นก็แยกตัวเลขออกมาบวกกันอีกครั้ง
    จะได้เป็น 1 + 9 + 7 + 0 = 17 ก็นำมาแยกบวกอีกจนกว่าจะได้เลข 1 ตัว

    จะได้เป็น 1 + 7 = 8 เมื่อได้ผลลัพธ์เป็นเลขตัวเดียวแล้ว ขอให้ดูว่า ตัวเลขที่ได้ตรงกับสีพื้นฐาน

        สีอะไร มีความหมายว่าอย่างไร แต่ถ้าเลขบวกกันแล้วได้ผลเป็น 11 และ 22 ไม่ต้องแยกบวกอีก

        เพราะเป็นพวกพิเศษกว่าพวกอื่น


        1. สีแดง ศักยภาพ : ผู้นำ

       พวกมีสีแดงเป็นสีพื้นฐาน จะมีความกระตือรือร้น เป็นผู้นำ
    เต็มไปด้วยพลังกระฉับกระเฉง มีเสน่ห์
    สามารถพูดจาโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นได้ดี เป็นคนสนุกสนาน โอบอ้อมอารี กล้าหาญ
    ทะเยอทะยาน มองโลกในแง่ดี ชอบการแข่งขัน เป็นสีที่นำมาซึ่งความสำเร็จ
    คุณควรหาอะไรที่ท้าทายความสามารถทำแต่อย่าให้ถึงกับว่า คุณวิ่งไม่เร็ว
    แต่คุณสร้างโครงการท้าทายความสามารถ โดยฝันที่จะเป็นนักกีฬาโอลิมปิก
    อย่างนี้มันเกินความสามารถมากไป ต้องพิจารณาให้พอเหมาะสม
        ข้อเสีย มักจะขี้กังวล ตื่นตระหนก และอาจหลงตัวเอง รวมทั้งอาจจะบ้างานมากไปจนเครียดควรรู้จักพักผ่อน และคลายความเครียด



        2. สีส้ม/แสด ศักยภาพ : มนุษยสัมพันธ์ดี

       คุณเป็นคนอบอุ่น น่าคบ เข้ากับคนง่าย
    ชอบเป็นที่ปรึกษาปัญหาให้ใครต่อใคร ชอบช่วยเหลือและ
    ทำตัวให้เป็นประโยชน์อยู่เสมอ มีจิตใจเป็นสมถะ ชอบปิดทองหลังพระ
    คุณควรคบกับคนที่มีนิสัยคล้ายคลึงกัน ไม่งั้นคนอื่นจะเอาเปรียบคุณ

        ข้อเสีย ขี้เกียจ ใจน้อย มักถูกคนอื่นเอาเปรียบ



        3. สีเหลือง ศักยภาพ : มีความคิดสร้างสรรค์
    ฉลาด

       คุณเป็นคนคิดอะไรรวดเร็ว มีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ เข้าสังคมง่าย
    ปรับตัวเก่ง ชอบคุยถกเถียงปัญหา ชอบเรียนรู้
    และทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน มีพรสวรรค์ด้านการพูด
    งานที่ทำควรเกี่ยวกับการพูดเป็นสื่อ เช่น ครู เซลล์แมน นักการทูต
    ที่ปรึกษา ฯลฯ หรืองานอาชีพที่ต้องใช้คำพูดเป็นหลัก เป็นคนฉลาดหลักแหลม และเรียนรู้อะไรได้รวดเร็ว

        ข้อเสีย จับจด ขี้อาย โกหกเก่ง



        4. สีเขียว ศักยภาพ : รักษาโรค (สีเขียวเป็นสีของการรักษาโรค)

        คุณเป็นคนรักสงบ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น จิตใจดี มีพลังจิต ไว้วางใจได้
    คุณอาจมีลักษณะภายนอกหงิมๆ หรือเรียบง่าย แต่ส่วนลึกแล้วดื้อน่าดู คุณเป็นพวกสู้งาน หนักเอาเบาสู้

        ข้อเสีย ดื้นรั้น ไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น



        5. สีน้ำเงิน ศักยภาพ : เป็นได้ทุกอย่าง

       คุณเป็นพวกมองโลกในแง่ดี แม้ชีวิตจะลุ่มๆ ดอนๆ ไปบ้าง แต่ยังยิ้มสู้เสมอ
    แสงออร่าของคุณจึงกว้างและสว่างไสวเสมอ ทำให้กระชุ่มกระชวย ดูอ่อนกว่าวัย
    คุณมีความจริงใจ ซื่อสัตย์ ปากกับใจตรงกัน รักการผจญภัย มีความคิดสร้างสรรค์และมีจินตนาการ
    ชอบพบปะผู้คน และสนใจการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม มีพรสวรรค์หลายๆ ด้าน

        ข้อเสีย
    ชอบทำงานหลายๆ อย่างในคราวเดียวกัน จึงกลายเป็นคนจับจด
    ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่างนอกจากนั้นยังเป็นพวกชีพจรลงเท้า
    และขาดความอดทนอีกด้วย



        6. สีคราม ศักยภาพ : มีความรับผิดชอบสูง

       คุณชอบงานด้านสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือผู้อื่น ชอบรับผิดชอบงาน จิตใจโอบอ้อมอารี เป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้ ไม่เห็นแก่ตัว

        ข้อเสีย ปฏิเสธใครไม่เป็น ควรหาเวลาเป็นตัวของตัวเองบ้าง มีมาตรฐานการทำงานสูง
    จึงมักหงุดหงิดกับอะไรๆ ที่ไม่ได้ตามมาตรฐานของตนเอง



        7. สีม่วง ศักยภาพ : ฉลาดล้ำลึก
    และสันโดษ

        คุณมีจิตใจละเอียดอ่อน สนใจในศาสตรลึกลับจนบางครั้งดูเหมือนเป็นคนลึกลับ
    คุณมีประสาทสัมผัสที่ ๖ รักสันโดษจนดูเหมือนคุณจะเข้ากับใครไม่ได้

        ข้อเสีย มักดูถูกความคิดผู้อื่น และเก็บความรู้สึกมากเกินไป



        8. สีชมพู ศักยภาพ : นักบริหาร นักธุรกิจ

        คุณเป็นคนมีความตั้งใจจริง แต่ค่อนข้างดื้นรั้น วางมาตรฐานตัวเองไว้สูง
    มีความเด็ดเดี่ยว และมุ่งมั่นที่จะให้บรรลุเป้าหมาย และความสำเร็จ
    อาชีพของคุณจึงต้องเกี่ยวกับการบริหารและความรับผิดชอบ ในส่วนลึกเป็นคนโรแมนติค
    และถ่อมตน รักความสงบ มีเมตตา ขณะเดียวกันจะยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่ยอมถอย ถ้าคุณรู้ว่าเป็นฝ่ายถูก

        ข้อเสีย มุงานมากเกินไปจนเครียด ควรหางานอดิเรกคลายเครียด



        9. สีทองเหลือง ศักยภาพ : นักสังคมสงเคราะห์

       คุณเป็นคนอ่อนโยน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เป็นทั้งนักปราชญ์และเป็นคนมีคุณธรรมเต็มเปี่ยม คุณมี

        ความสุขมากที่สุดเมื่อได้ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นคนมีความสุขและมองโลกในแง่ดี

        ข้อเสีย ปฏิเสธใครไม่เป็น จึงถูกเอาเปรียบบ่อยๆ ควรรู้จักปฏิเสธบ้าง



        11. สีเงิน ศักยภาพ : นักอุดมคติ

       คุณมีประสาทสัมผัสที่ ๖ มีศักยภาพสูงในหลายๆ ด้าน เต็มไปด้วยความคิดแปลกๆ
    ใหม่ๆ ชอบฝันหวาน แต่คุณมักจะฝันมากกว่าลงมือทำจริงๆ เป็นคนซื่อสัตย์
    มีความเชื่อมั่นในตัวเอง มองโลกในแง่ดี ถ้ามุมานะสร้างความฝันให้เป็นความจริงคุณจะไปได้ไกลมากทีเดียว

        ข้อเสีย ขี้เกียจ และบางครั้งจะเครียดจนใครๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ ควรหาเวลาพักผ่อน ฝึกสมาธิ หรือโยคะ



        22. สีทอง ศักยภาพ : ไม่มีขอบเขตจำกัด


       คุณสามารถทำเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็ก
    หรือทำงานใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องปอกกล้วยเข้าปาก
    คุณจะประสบความสำเร็จไปแทบทุกเรื่อง เป็นคนมีเสน่ห์จูงใจ
    ทำงานหนักเอาเบาสู้ มีเป้าหมาย ในการทำงานที่แน่นอน
    มีอุดมคติและความสามารถสูง เป็นผู้นำสามารถโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นได้

    ที่มา: โลกทิพย์

    ออร่าคืออะไร
    คำว่าออร่ามาจากภาษาลาติน แปลว่า อากาศ

                    
    มาจากภาษากรีก    แปลว่าลมหายใจ

    หลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับออร่า
    - แสงฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าที่เราเห็นตามฝาผนังโบสถ์
    - ภาพรัศมีของพวกนักบุญฝรั่ง


      ส่วนหลักฐานที่จารึกเป็นลายลักษณ์อักษร พบในยุโรปประมาณเกือบ 1,000 ปีมาแล้ว โดยกล่าวถึงออร่าว่า มี 4 จำพวกคือ

    1. นิมบัส Nimbus มีลักษณะเป็นหมอก
    2. ฮาโล Halo เป็นรัศมี

    3. ออเรโอลา Aureola เป็นแสงรอบตัว
    4. กลอรี่ Glory เป็นแสงที่รวมเอาแสงที่ศีรษะและรอบตัวเข้าด้วยกัน (ภาพ)

    แสงออร่าไม่ใช่เรื่องใหม่

      หลายๆ คนอาจจะมองออร่าไม่เห็น แต่ทุกคนสามารถรับข้อมูลและความรู้สึกจากแสงออร่าของผู้อื่นได้ จากประสบการณ์ดังนี้

    1. รู้สึกสดชื่นหรือห่อเหี่ยว เมื่อได้ยินเสียงใครบางคน
    2. รู้สึกว่าเพื่อนคุณสวยหรือหล่อเป็นพิเศษ เมื่อสวมเสื้อผ้าสีใดสีหนึ่ง

    3. รู้สึกว่าคุณสดชื่นขึ้นเมื่อสวมเสื้อผ้าสีใดสีหนึ่ง
    4. รู้สึกว่ามีคนจ้องมองอยู่ เมื่อเหลียวกลับไปก็มีคนจ้องอยู่จริง

    5. รู้สึกชอบหรือเกลียดขี้หน้าคนบางคน ทั้งๆ ที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก
    6. รู้สึกโกรธหรือสงบเมื่อย่างเท้าเข้าไปในสถานที่บางแห่ง

    7. รู้สึกว่าคนที่คุยด้วยไม่จริงใจกับคุณ และภายหลังคุณพบว่าความรู้สึกนั้นถูกต้อง


      ถ้าคำตอบเหล่านี้คือ ใช่ แสดงว่าคุณสามารถสัมผัสออร่าได้ และหากฝึกฝนคุณก็สามารถสัมผัส ได้ด้วยตา มือ จิต และอ่านความหมายได้
    รวมไปถึงหากดูแลรักษาสุขภาพ แสงออร่าของตัวเอง จะช่วยให้ร่างกายคุณ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมีแต่ความสุขกายสบายใจ

    สีของออร่าและความหมาย

       มี 2 ประเภท
       1. สีของความคิดและอารมณ์

           จะมีลักษณะเป็นหมอก มีความไหลปรากฏเป็นหย่อมๆ
    จะเห็นได้ชัดเจนบริเวณรอบศีรษะ และเหนือบ่า มีสีสันต่างๆ เช่น
        1.1 สีชมพู หมายถึงพลังที่แจ่มใส เต็มไปด้วยความรัก
    อารมณ์ขัน ถ่อมตนสามารถ ปลอบประโลม ผู้อื่น โรแมนติก ข้อเสียคือมักจะใจคอโลเล

        1.2 สีแดง เป็นสีที่แสดงถึงความทะเยอทะยาน เต็มไปด้วยพลังงาน มีความกระฉับกระเฉง และ มีพลังทางเพศ ถ้าเป็นสีแดงมืดอาจหมายถึงอารมณ์รุนแรง
    ถ้าเป็นสีแดงสดใสหมายถึงความ ภาคภูมิใจ และทะเยอทะยานในทางที่ถูกที่ควร ถ้าสีแดงขุ่นเป็นพวกใจคอโหดร้าย

        1.3 สีส้ม / แสด
    เป็นสีของความกระฉับกระเฉงว่องไว มีความสุข สุขภาพ ที่เต็มไปด้วยพลัง
    ถ้ามีแสงสีนี้มากเกินไปจะกลายเป็นคนเย่อหยิ่ง
    สีนี้ยังเป็นสีที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อด้วย

        สีส้มมัวหม่น หรือ ส้มปนน้ำตาล แสดงถึงปัญญาต่ำ ถ้าสีส้มแดงหมายถึง เย่อหยิ่ง อวดฉลาด

        1.4 สีเหลือง
    เป็นสีที่มองเห็นง่ายที่สุดในออร่า เป็นสีของความฉลาดความเมตตา
    มองโลกในแง่ดี รักเพื่อนมนุษย์ นอกจากนั้นยังเป็นสีของภูมิคุ้มกันโรค
    สีเหลืองอมส้มแสดงถึง ความฉลาด - ปราดเปรื่อง
    สีเหลืองขุ่นค้นแสดงถึงความอิจฉาริษยา หรือความคลางแคลงใจ

        1.5 สีเขียว เป็นสีของจิตใจที่ละเอียดอ่อน มีความเข้าใจผู้อื่น นอกจากนั้นยังเป็นสีของ ความรัก การเปลี่ยนแปลง
    การรักษาโรค ความสามารถในการใช้มือ และยังเป็นสีที่แสดงถึงความสมดุล

        ถ้าเป็นสีเขียวสดใสแสดงว่าเป็นคนปรับตัวเก่ง ใจดี ชอบอิสระ
    ถ้าเป็นสีเขียวมืดจะเป็นพวกขี้โกง ขี้อิจฉา
    ถ้าเป็นสีเขียวอมฟ้าเป็นพวกชอบช่วยเหลือผู้อื่นไว้วางใจได้
    เข้าอกเข้าใจผู้อื่น และแสดงถึงความสามารถในการรักษาโรค
    ถ้าเป็นสีเขียวขี้ม้าเป็นพวกชอบหลอกลวง ต้มตุ๋น ขี้โกง และขี้เหนียว

        1.6 สีน้ำเงิน
    เป็นสีของความสงบและสัจจะ เป็นสีของการสื่อสาร พลังจิตความฉลาด
    ความมีอุดมคติ ขยันขันแข็ง ความสำเร็จ สามารถยืนหยัดอยู่บนขาของตัวเอง
    มีความเชื่อมั่นในตนเอง ซื่อตรง จริงใจ และชอบช่วยเหลือผู้อื่น
    มักจะเป็นพวกสมถะ แต่ใจคอหงุดหงิดง่าย

        สีน้ำเงินขุ่นแสดงว่าทัศนะวิสัยถูกปิดกั้น กลายเป็นคนขี้กังวล และขี้ลืม

        1.7 สีคราม เป็นสีของพลังจิต สัมผัสที่ 6 โทรจิต ความฉลาดล้ำลึกความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
    มีความจริงใจ ชอบค้นหาสัจจะความจริงของชีวิต
        1.8 สีม่วง เป็น
    พวกจิตละเอียดอ่อน เป็นตัวของตัวเอง มีสัมผัสที่ 6 ชอบทางสมาธิ
    และโน้มเอียงไปทางศาสนา ชอบเรื่องลี้ลับ คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีสีนี้
    ผู้ที่มีสีนี้มักจะมีพลังจิตสูง แต่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับบริเวณท้อง
    เนื่องจากจักระช่วงบนพัฒนาล้ำหน้าจักระช่วงล่าง
        1.9 สีน้ำตาล
    เป็นสีที่แสดงถึงความคิดแคบๆ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
    เห็นแก่ตัว ชอบคุยแต่เรื่องตัวเอง เป็นคนน่าเบื่อ
    สีน้ำตาลยังเป็นสีของจักระเท้า พลังธรณี และอดีตที่ผ่านมา

        ข้อดีของสีนี้คือ เป็นสีของความขยันขันแข็ง ความมีระเบียบ
    และอาจหมายถึงความมุ่งมั่นที่จะให้สู่จุดมุ่งหมาย และความสำเร็จ

        1.10 สีดำ
    หมายถึง การสิ้นสุด ซึ่งในที่นี้หมายถึง การสิ้นสุดของสถานการณ์หนึ่ง
    เพื่อเปิดโอกาสให้สถานการณ์ใหม่เข้ามา อาจหมายถึงการเกิดใหม่
    หรือความล่าช้าก็ได้ บางครั้งอาจหมายถึง โรคร้ายแรง หรือโรคเรื้อรัง
    อิทธิพลมืด บางครั้งอาจหมายถึงการปกป้องตัวเองจากพลังภายนอก
    หรือคนผู้นั้นอาจจะมีความลับ ถ้าสีดำเกิดปะปนอยู่กับสีอื่นๆ เช่น สีแดง
    แสดงถึงความโกรธ เกลียด อาฆาต พยาบาท สีเหลือง แสดงถึงความคิดชั่วร้าย
    สีเขียวหมายถึง ความคิดหักหลัง อิจฉา

        1.11 สีขาว
    เป็นสีที่มีความสมดุล และสมบูรณ์แบบมากที่สุด จะปรากฏกับพวกนักบุญ พระ
    หรือ ผู้ฝึกสมาธิวิปัสสนาสม่ำเสมอ
    ถ้าปรากฏเป็นเส้นแสงสีขาวผ่านเข้ามาในแสง อาจหมายถึงข่าวสาร
    จากมิติอื่นเข้ามา พวกที่เข้าทรงจะมีสีขาวเข้ามาในแสงระหว่างการเข้าทรง

       ผู้ที่มีสีขาวปรากฏอยู่ในออร่า หมายถึง
    กายแสงได้รับการชำระและฟอกให้บริสุทธิ์ หรืออาจหมายถึง
    สภาพจิตใจที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และบริสุทธิ์

        1.12 สีเงิน หมายถึงแรงบันดาลใจ หรือข่าวสารข้อมูลจากโลกวิญญาณ หรือจากมิติอื่น

        1.13 สีทอง เป็นพลังของจักรวาล หรือพลังจากเทพที่เข้ามาช่วยถ่ายโรคออกจากร่างกาย

        1.14 สีเทา เป็นพวกขาดจินตนาการ คร่ำครึ หัวโบราณ ยึดถือความคิดตนเป็นใหญ่ เจ้าระเบียบ

        ถ้าเป็นสีเทามืด ยิ่งมืดทึบมาก ยิ่งแสดงถึงอารมณ์ที่เหี่ยวเฉา
    สลดหดหู่ คนพวกนี้มักจะว้าเหว่
    ถ้ามีจุดมืดสีนี้ในแสงแสดงถึงโรคอวัยวะที่มีปัญหา หรืออิทธิพลมืด

        ถ้ามีจุดสีแดงอยู่ในเงามืดของแสง แสดงถึงความคิดแง่ลบ ได้แก่ ความเกลียด เคียดแค้น หรือ แม้แต่อารมณ์ฆาตกร
    สีเทาค่อนไปทางสีเงิน แสดงถึงว่าสมองซีกขวาได้รับการกระตุ้นก่อให้เกิด จินตนาการและ สัมผัสที่ 6

            สีที่ไม่ค่อยปรากฏอยู่ด้วยกันคือสีน้ำเงินกับสีแสด
    ถ้าใครมีสองสีนี้อยู่ด้วยกัน จะเป็นคนที่น่าอิจฉา
    เพราะสีน้ำเงินเป็นสีของความสงบ และสีแดงเป็นสีของความสุข
    คุณจะมีแต่ความสงบสุขทางจิตใจ


        2. สีพื้นฐานของออร่า
        จะทราบอย่างไรว่าเรามีสีพื้นฐานของออร่าเป็นสีอะไร

        ง่ายนิดเดียว เพียงคำนวณตามสูตร นำวัน เดือน ปี ค.ศ. ที่เกิด มาบวกกัน

    สมมุติว่า เกิดวันที่ 5 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1960
    ก็นำเลขทั้งหมดมาบวกกันคือ 5 + 5 + 1960 = 1970

    จากนั้นก็แยกตัวเลขออกมาบวกกันอีกครั้ง
    จะได้เป็น 1 + 9 + 7 + 0 = 17 ก็นำมาแยกบวกอีกจนกว่าจะได้เลข 1 ตัว

    จะได้เป็น 1 + 7 = 8 เมื่อได้ผลลัพธ์เป็นเลขตัวเดียวแล้ว ขอให้ดูว่า ตัวเลขที่ได้ตรงกับสีพื้นฐาน

        สีอะไร มีความหมายว่าอย่างไร แต่ถ้าเลขบวกกันแล้วได้ผลเป็น 11 และ 22 ไม่ต้องแยกบวกอีก

        เพราะเป็นพวกพิเศษกว่าพวกอื่น


        1. สีแดง ศักยภาพ : ผู้นำ

       พวกมีสีแดงเป็นสีพื้นฐาน จะมีความกระตือรือร้น เป็นผู้นำ
    เต็มไปด้วยพลังกระฉับกระเฉง มีเสน่ห์
    สามารถพูดจาโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นได้ดี เป็นคนสนุกสนาน โอบอ้อมอารี กล้าหาญ
    ทะเยอทะยาน มองโลกในแง่ดี ชอบการแข่งขัน เป็นสีที่นำมาซึ่งความสำเร็จ
    คุณควรหาอะไรที่ท้าทายความสามารถทำแต่อย่าให้ถึงกับว่า คุณวิ่งไม่เร็ว
    แต่คุณสร้างโครงการท้าทายความสามารถ โดยฝันที่จะเป็นนักกีฬาโอลิมปิก
    อย่างนี้มันเกินความสามารถมากไป ต้องพิจารณาให้พอเหมาะสม
        ข้อเสีย มักจะขี้กังวล ตื่นตระหนก และอาจหลงตัวเอง รวมทั้งอาจจะบ้างานมากไปจนเครียดควรรู้จักพักผ่อน และคลายความเครียด



        2. สีส้ม/แสด ศักยภาพ : มนุษยสัมพันธ์ดี

       คุณเป็นคนอบอุ่น น่าคบ เข้ากับคนง่าย
    ชอบเป็นที่ปรึกษาปัญหาให้ใครต่อใคร ชอบช่วยเหลือและ
    ทำตัวให้เป็นประโยชน์อยู่เสมอ มีจิตใจเป็นสมถะ ชอบปิดทองหลังพระ
    คุณควรคบกับคนที่มีนิสัยคล้ายคลึงกัน ไม่งั้นคนอื่นจะเอาเปรียบคุณ

        ข้อเสีย ขี้เกียจ ใจน้อย มักถูกคนอื่นเอาเปรียบ



        3. สีเหลือง ศักยภาพ : มีความคิดสร้างสรรค์
    ฉลาด

       คุณเป็นคนคิดอะไรรวดเร็ว มีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ เข้าสังคมง่าย
    ปรับตัวเก่ง ชอบคุยถกเถียงปัญหา ชอบเรียนรู้
    และทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน มีพรสวรรค์ด้านการพูด
    งานที่ทำควรเกี่ยวกับการพูดเป็นสื่อ เช่น ครู เซลล์แมน นักการทูต
    ที่ปรึกษา ฯลฯ หรืองานอาชีพที่ต้องใช้คำพูดเป็นหลัก เป็นคนฉลาดหลักแหลม และเรียนรู้อะไรได้รวดเร็ว

        ข้อเสีย จับจด ขี้อาย โกหกเก่ง



        4. สีเขียว ศักยภาพ : รักษาโรค (สีเขียวเป็นสีของการรักษาโรค)

        คุณเป็นคนรักสงบ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น จิตใจดี มีพลังจิต ไว้วางใจได้
    คุณอาจมีลักษณะภายนอกหงิมๆ หรือเรียบง่าย แต่ส่วนลึกแล้วดื้อน่าดู คุณเป็นพวกสู้งาน หนักเอาเบาสู้

        ข้อเสีย ดื้นรั้น ไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น



        5. สีน้ำเงิน ศักยภาพ : เป็นได้ทุกอย่าง

       คุณเป็นพวกมองโลกในแง่ดี แม้ชีวิตจะลุ่มๆ ดอนๆ ไปบ้าง แต่ยังยิ้มสู้เสมอ
    แสงออร่าของคุณจึงกว้างและสว่างไสวเสมอ ทำให้กระชุ่มกระชวย ดูอ่อนกว่าวัย
    คุณมีความจริงใจ ซื่อสัตย์ ปากกับใจตรงกัน รักการผจญภัย มีความคิดสร้างสรรค์และมีจินตนาการ
    ชอบพบปะผู้คน และสนใจการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม มีพรสวรรค์หลายๆ ด้าน

        ข้อเสีย
    ชอบทำงานหลายๆ อย่างในคราวเดียวกัน จึงกลายเป็นคนจับจด
    ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่างนอกจากนั้นยังเป็นพวกชีพจรลงเท้า
    และขาดความอดทนอีกด้วย



        6. สีคราม ศักยภาพ : มีความรับผิดชอบสูง

       คุณชอบงานด้านสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือผู้อื่น ชอบรับผิดชอบงาน จิตใจโอบอ้อมอารี เป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้ ไม่เห็นแก่ตัว

        ข้อเสีย ปฏิเสธใครไม่เป็น ควรหาเวลาเป็นตัวของตัวเองบ้าง มีมาตรฐานการทำงานสูง
    จึงมักหงุดหงิดกับอะไรๆ ที่ไม่ได้ตามมาตรฐานของตนเอง



        7. สีม่วง ศักยภาพ : ฉลาดล้ำลึก
    และสันโดษ

        คุณมีจิตใจละเอียดอ่อน สนใจในศาสตรลึกลับจนบางครั้งดูเหมือนเป็นคนลึกลับ
    คุณมีประสาทสัมผัสที่ ๖ รักสันโดษจนดูเหมือนคุณจะเข้ากับใครไม่ได้

        ข้อเสีย มักดูถูกความคิดผู้อื่น และเก็บความรู้สึกมากเกินไป



        8. สีชมพู ศักยภาพ : นักบริหาร นักธุรกิจ

        คุณเป็นคนมีความตั้งใจจริง แต่ค่อนข้างดื้นรั้น วางมาตรฐานตัวเองไว้สูง
    มีความเด็ดเดี่ยว และมุ่งมั่นที่จะให้บรรลุเป้าหมาย และความสำเร็จ
    อาชีพของคุณจึงต้องเกี่ยวกับการบริหารและความรับผิดชอบ ในส่วนลึกเป็นคนโรแมนติค
    และถ่อมตน รักความสงบ มีเมตตา ขณะเดียวกันจะยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่ยอมถอย ถ้าคุณรู้ว่าเป็นฝ่ายถูก

        ข้อเสีย มุงานมากเกินไปจนเครียด ควรหางานอดิเรกคลายเครียด



        9. สีทองเหลือง ศักยภาพ : นักสังคมสงเคราะห์

       คุณเป็นคนอ่อนโยน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เป็นทั้งนักปราชญ์และเป็นคนมีคุณธรรมเต็มเปี่ยม คุณมี

        ความสุขมากที่สุดเมื่อได้ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นคนมีความสุขและมองโลกในแง่ดี

        ข้อเสีย ปฏิเสธใครไม่เป็น จึงถูกเอาเปรียบบ่อยๆ ควรรู้จักปฏิเสธบ้าง



        11. สีเงิน ศักยภาพ : นักอุดมคติ

       คุณมีประสาทสัมผัสที่ ๖ มีศักยภาพสูงในหลายๆ ด้าน เต็มไปด้วยความคิดแปลกๆ
    ใหม่ๆ ชอบฝันหวาน แต่คุณมักจะฝันมากกว่าลงมือทำจริงๆ เป็นคนซื่อสัตย์
    มีความเชื่อมั่นในตัวเอง มองโลกในแง่ดี ถ้ามุมานะสร้างความฝันให้เป็นความจริงคุณจะไปได้ไกลมากทีเดียว

        ข้อเสีย ขี้เกียจ และบางครั้งจะเครียดจนใครๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ ควรหาเวลาพักผ่อน ฝึกสมาธิ หรือโยคะ



        22. สีทอง ศักยภาพ : ไม่มีขอบเขตจำกัด


       คุณสามารถทำเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็ก
    หรือทำงานใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องปอกกล้วยเข้าปาก
    คุณจะประสบความสำเร็จไปแทบทุกเรื่อง เป็นคนมีเสน่ห์จูงใจ
    ทำงานหนักเอาเบาสู้ มีเป้าหมาย ในการทำงานที่แน่นอน
    มีอุดมคติและความสามารถสูง เป็นผู้นำสามารถโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นได้

    ที่มา: โลกทิพย์

    10/9/51 |





    หนึ่งนาทีที่แล้วฉันยัง
    ยังไม่คิดจะรักใครสักนิดเลย
    แต่นาทีจากนี้ ฉันมั่นใจว่ามันใช่เลย
    แค่สบสายตา เธอที่มองมาที่ฉัน

    หนึ่งนาทีที่แล้วฉันยัง
    ยังไม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิตเท่าไร
    แต่นาทีจากนี้ ฉันแน่ใจว่าต้องรักใคร
    จากวิธีที่เธอยิ้มให้กับฉัน

    คิดเหมือนกันกับฉัน ใช่ไหม
    มันเหมือนว่าเราคุ้นเคยกัน
    อย่างกับฉันเคย เคยได้พบเธอ รู้สึกดีในหัวใจ
    ขออะไรอย่างนึงได้รึเปล่า
    จากนาทีนี้ไป อยู่เคียงข้างกันจะได้ไหม
    มาใช้นาทีร่วมกัน

    หนึ่งนาทีจากนี้โลกคง
    คงจะเสียคนเหงาไปอีกสองคน
    แต่จะมีคู่รัก อีกคู่หนึ่งขึ้นมาทดแทน
    อยู่ที่เธอว่าจะรักกันบ้างไหม

    คิดเหมือนกันกับฉัน ใช่ไหม
    มันเหมือนว่าเราคุ้นเคยกัน
    อย่างกับฉันเคย เคยได้พบเธอ รู้สึกดีในหัวใจ
    ขออะไรอย่างนึงได้รึเปล่า
    จากนาทีนี้ไป อยู่เคียงข้างกันจะได้ไหม
    มาใช้นาทีร่วมกัน

    คิดเหมือนกันกับฉัน ใช่ไหม
    มันเหมือนว่าเราคุ้นเคยกัน
    อย่างกับฉันเคย เคยได้พบเธอ รู้สึกดีในหัวใจ
    ขออะไรอย่างนึงได้รึเปล่า
    จากนาทีนี้ไป อยู่เคียงข้างกันจะได้ไหม
    อยากใช้นาทีด้วยกัน จากนี้แค่เธอกับฉัน




    เธอ เธอจำได้หรือเปล่า
    จำวันคืนที่เรา มีให้กันได้ไหม
    เรา ผ่านอะไรมากมาย
    ทุกๆ สิ่งดีร้าย ล้วนมีความสำคัญ

    วันคืนที่เราเรียนรู้กัน
    ส่งให้เธอกับฉัน ก้าวมาขั้นสุดท้าย

    ก็มันเป็น รักที่เกิดจากความใกล้ชิด
    ผ่านสิ่งที่มีชีวิตที่เรียกว่าหัวใจ
    ก็แค่เราสานต่อแบบไม่ต้องหยุดพัก
    ปล่อยสิ่งที่เรียกว่ารัก ก้าวไปโตไป
    อย่างที่ใจต้องการ

    เธอ อาจจะลืมสังเกต
    มีอารมณ์พิเศษ เกิดกับเธอและฉัน
    เกินกว่าจะเป็นเพื่อนกัน
    เพราะคำตอบเหล่านั้น ฉันรู้มันด้วยใจ

    มีคนดีดี นับร้อยพัน
    แต่อย่างเธอกับฉัน จะไปหาที่ไหน

    ก็มันเป็น รักที่เกิดจากความใกล้ชิด
    ผ่านสิ่งที่มีชีวิตที่เรียกว่าหัวใจ
    ก็แค่เราสานต่อแบบไม่ต้องหยุดพัก
    ปล่อยสิ่งที่เรียกว่ารัก ก้าวไปโตไป
    อย่างที่ใจต้องการ

    หากว่าฉัน ต้องการคู่คิดสักคน
    ผ่านชีวิตร้อนหนาว ผ่านแดดและฝน
    ก็อยากให้เธอ อยู่กับฉัน

    ก็มันเป็น รักที่เกิดจากความใกล้ชิด
    ผ่านสิ่งที่มีชีวิตที่เรียกว่าหัวใจ
    ก็แค่เราสานต่อแบบไม่ต้องหยุดพัก
    ปล่อยสิ่งที่เรียกว่ารัก ก้าวไปโตไป
    อย่างที่ใจต้องการ

    Chorus
    จ้องตาอยู่ทุกวัน คบกันจนรู้ใจ
    ฉันคงไม่รักใคร หันไปก็เห็นเธอ

    กลิ่น-T-Bone

    |



    ใกล้ๆ กัน ดังกับเราได้อยู่ในฝัน เมื่อตัวฉันได้มาอยู่ใกล้เธอ
    หอมตัวเธอ ทำเอาเราต้องมาพร่ำเพ้อ ดันไปเผลอหายใจอยู่ข้างเธอ

    ** ลมเอยอย่าพัดเลยตอนนี้ กลัวจะจางหายไป...
    กำลังเพลินกับการได้หายใจ เอากลิ่นกายของเธอในยามใกล้กัน

    * หอมกลิ่นเหลือเกิน จะสูดเข้าไป ฉันอยากหายใจ เอาไว้ให้มากพอ
    ขอสูดขอดม จะบ่มเอาไว้ หอมกลิ่นหัวใจ เมื่อฉันได้ใกล้เธอ

    ขอเพียงเธอ มีเวลาได้อยู่ข้างฉัน เพียงเท่านั้นฉันคงสุขหัวใจ
    ไม่โดนตัว กลัวจะทำให้เธอด่างพร้อย เพียงปลายก้อยฉันยังไม่คิดเลย

    พอใจจะหอมแค่เพียงกลิ่นกาย คงไม่จางหายไป
    เพราะความจริง เธอหอมไปถึงหัวใจ สูดเท่าไร ความหอมมันคงไม่จาง

    (ซ้ำ *)


    (ซ้ำ ** / * / *)

    กอด-T-Bone

    |



    กอด.....กันหน่อยได้ไหม ให้ฉันได้ชื่นใจซักที
    กอด.....กันเถอะคนดี สุขทุกนาทีที่ได้กอด.....กัน
    อยากจะกอด.....เธอไว้ ให้หัวใจฉันเคียงข้างเธอ
    กอด.....เธอแบบเพลินๆ ไม่คิดล่วงเกิน แค่พออุ่นใจ

    โลกเราวันนี้....สับสนเหลือเกินฉันเลยเป็นห่วง
    เห็นเธอเหนื่อยล้า.....เลยคิดว่าดีถ้าเรากอด.....กัน

    จับมือกอด.....กันไว้.......ร้อยดวงใจของเราสองคน
    กอด.....โลกใหญ่ใบกลม.....กอด.....ให้ทุกคนได้เป็นสุขใจ
    โลกเราวันนี้......สับสนเหลือเกินฉันเลยเป็นห่วง
    เห็นเธอเหนื่อยล้า......เลยคิดว่าดีถ้าเรากอด.....กัน

    จับมือกอด.....กันไว้.....แล้วรวมใจของเราทุกคน
    กอด.....โลกใหญ่ใบกลม......กอด.....ไว้ทุกคนได้เป็นสุขใจ
    ได้เป็นสุขใจ ...ได้เป็นสุขใจ

    บังเอิญ-Chocolate Kits

    |



    บังเอิญใครเหงาใจอยู่ตรงนี้ บังเอิญเคยไม่มีใครสักคน
    บังเอิญมีสายตาผ่านมาชน ... ฉันพบเธอ ด้วยเหตุผลกลใด
    อยู่ห่างกันแสนไกล ด้วยฟ้าดลใจให้เราพบเจอ

    แต่ไม่บังเอิญหรอกที่รักเธอ และไม่บังเอิญเลยที่เผลอใจ
    คือรักแท้จริงจากใจถึงใจ บังเอิญเจอะใครตั้งมากมาย
    แต่ไม่บังเอิญที่ฉันขอมีเธอ

    บังเอิญที่ไหนกันที่หวั่นไหว มันคงเป็นเพราะใจคิดถึงเธอ
    บังเอิญมีแสงดาวยิ่งละเมอ ฉันพบเธอ ด้วยเหตุผลกลใด
    อยู่ห่างกันแสนไกล ด้วยฟ้าดลใจให้เราพบเจอ

    แต่ไม่บังเอิญหรอกที่รักเธอ และไม่บังเอิญเลยที่เผลอใจ
    คือรักแท้จริงจากใจถึงใจ บังเอิญเจอะใครตั้งมากมาย
    แต่ไม่บังเอิญที่ฉันขอมีเธอ

    แล้ววันนี้บังเอิญอากาศเป็นใจเหลือเกิน
    ฉันอยากถามว่าเธอบังเอิญมีใจให้ฉัน...หรือแค่ฝันไป

    (...มันไม่บังเอิญเลยที่กระผมมาเจอกับคุณมาได้
    ผมมาเจอคุณเธอดวงตามันหวามละมุน
    คุณจะไม่รู้ ว่าตัวกระผมนั้นเจ้าชู้
    ก็อยากให้ลองคิดดู เลยบอกให้รู้ไว้เอาบุญ...น่่ะ

    เพราะความเป็นจริงมันคงเป็นความจงใจ
    มันเป็นแผนที่อยากจะพบจะเจอ เพื่อให้คุณมารักยังไง
    ผมมันตัวคนเดียวตั้งนานเดียวดายไม่หล่อแต่เร้าใจ
    คิดแล้วก็คงจะดีก็ถ้าหากวันนี้ได้อยู่กับแม่ไฉไล)

    ฉันพบเธอ ด้วยเหตุผลกลใด
    อยู่ห่างกันแสนไกล ด้วยฟ้าดลใจให้เราพบเจอ

    แต่ไม่บังเอิญหรอกที่รักเธอ และไม่บังเอิญเลยที่เผลอใจ
    คือรักแท้จริงจากใจถึงใจ บังเอิญเจอะใครตั้งมากมาย
    แต่ไม่บังเอิญที่ฉันขอมีเธอ

    ฟ้าบังเอิญมาพบ และทำให้ฉันได้คู่เธอ
    ฟ้าให้เราได้เจอกับคนที่หามาตั้งนาน
    และคงเป็นสวรรค์ที่ทำให้เราได้รักกัน
    อยากบังเอิญให้ฉันมีเธอ...ตลอดไป



    เธอ เธอเป็นสีชมพู เธอมีโลกของเธออยู่ ที่ฉันไม่อาจล่วงรู้และไม่เคยเข้าไป
    ส่วนฉันเป็นสีเทา มีแต่ความเหงารอบๆกาย ไม่รู้เลยในความหมายอะไรมากกว่านี้

    แต่เธอและฉันก็เดินเข้ามาชิดใกล้ มาทำให้ฉันแปรเปลี่ยนเป็นสีใหม่
    เมื่อชีวิตของเราไหลปนกัน โลกของฉันก็ดูจะเปลี่ยนสีไป

    *อะไรเป็นของเธอ ก็กลายเป็นอะไรของฉัน เมื่อเราต่างเทสีผสมละลายเข้าด้วยกัน
    โลกของฉันและเธอก็สดใสกว้างใหญ่ขึ้นกว่าวันนั้น
    เมื่อสีทั้งสองผสมกัน เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา

    เราผลัดกันเดินเข้าไป สู่โลกคนละใบ สุดท้ายก็ต่างไม่รู้ ว่าโลกของใครเป็นของใคร
    เมื่อในวันนั้นเธอเข้ามาใกล้ๆ มาทำตัวฉันแปรเปลี่ยนเป็นสีใหม่
    และเมื่อสีของเราไหลรวมกัน โลกของฉันก็ค่อยๆเปลี่ยนไปทั้งใบ

    *

    โอ้... เมื่อเธอได้เข้ามา ฉันก็ได้เห็นอะไรที่มากกว่า
    จากนี้และเรื่อยไป จากนี้ทั้งหัวใจ
    ก็คงจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมใช่ไหม

    อะไรเป็นของเธอ ก็กลายเป็นอะไรของฉัน เมื่อเราต่างเทสีผสมละลายเข้าด้วยกัน
    ก็คงจะเป็นไปตามทฤษฏี ที่เขาบอกไว้ว่ามัน เมื่อสีทั้งสองผสมกันนั้น...

    ก็คงไม่มี อะไรที่จะเป็นเหมือนเดิมได้อย่างวันนั้น
    เมื่อสีทั้งสองผสมกัน เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา

    ขอ - Paradox

    |




    ขอบคุณ โชคชะตาที่ทำให้เราได้พบกัน

    ทุกข์ทรมาน อยู่กับความเหงา ความเดียวดาย
    คืนและวันที่ผ่าน เกิดทั้งร้ายดี แต่หัวใจดวงนี้เฝ้าแต่รอ

    และเมื่อฉันได้พบเธอ ก็เหมือนโลกหยุดหมุน
    ทุกสิ่งพลัน สวยงามเมื่อเจอเธอ
    อาจจะเป็นแค่ครั้งเดียวที่ฟ้ากำหนดมา จนทำให้ฉันได้เจอ

    ขอให้รักต่อจากนี้ ให้รักเราผลิบาน ให้ฟ้าช่วยประทานพร
    ดลบันดาลต่อจากนี้ ให้สองเราผูกพัน เกิดเป็นความทรงจำที่ดี

    และเมื่อฉันได้พบเธอ ก็เหมือนโลกหยุดหมุน
    ทุกสิ่งพลัน สวยงามเมื่อเจอเธอ
    อาจจะเป็นแค่ครั้งเดียวที่ฟ้ากำหนดมา จนทำให้ฉันได้เจอ

    ขอให้รักต่อจากนี้ ให้รักเราผลิบาน ให้ฟ้าช่วยประทานพร
    ดลบันดาลต่อจากนี้ ให้สองเราผูกพัน เกิดเป็นความทรงจำที่ดี

    ขอให้รักต่อจากนี้ ให้รักเราผลิบาน ให้ฟ้าช่วยประทานพร
    ดลบันดาลต่อจากนี้ ให้สองเราผูกพัน เกิดเป็นความทรงจำที่หาก
    วอนคำขอพรทุกสิ่ง มอบแด่เธอ.. ผู้ทำให้ฉันพบความสดใส
    ขอให้รักต่อจากนี้ ให้รักเราผลิบาน ให้ฟ้าช่วยประทานพร
    ดลบันดาลต่อจากนี้ ให้สองเราผูกพัน เกิดเป็นความทรงจำที่ดี..
    ดี.. ฮา.. ฮู.. ฮา..