นวัตกรรมล่าสุดจาก Microsoft เมาส์ที่ใช้ได้ทุกสภาพพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นพรม ไม้ กระจก โดยใช้แสงเลเซอร์สีฟ้าแทนสีแดง

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : โดย บารมี นวนพรัตน์สกุล

เมาส์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ วิจัยพัฒนาโดย Microsoft ภายใต้ชื่อ Blue Track Mouse Technology ซึ่งขณะนี้ถือเป็นเทคโนโลยีการผลิตเมาส์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก

Mark DePue
วิศวกรฝ่ายฮาร์ดแวร์ของ Microsoft เล่าให้ฟังว่า
เมาส์ชนิดนี้สามารถใช้ได้ทุกพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้ พรม หินอ่อน
กระจก หรือที่ไหนก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ให้ผลแม่นยำ
ซึ่งประกอบด้วยส่วนหลักๆ ได้แก่

Microsoft-Designed CMOS Chip เป็นชิพแบบ CMOS ของ Microsoft ซึ่งพัฒนามาจนถึงรุ่นที่ 4 แล้ว โดยให้ค่าการทำงานที่แม่นยำกว่ารุ่นที่ผ่านๆ มา

Blue Specular Optics
เป็นเลนส์สีฟ้า ซึ่งจะรับภาพที่แสดงผลของพื้นผิวได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
แม้กระทั่งพื้นผิวมันเงา เช่น หินอ่อนหรือกระจก
ขณะที่แสงสีฟ้าจะทำให้ภาพสะท้อนของพื้นผิวมีความคมชัดสูงกว่าสีแดงที่ใช้กัน
ในเมาส์ทั่วๆ ไป โดยเฉพาะพื้นผิวที่อยู่ภายใต้แสงฟลูออเรสเซนต์
เลเซอร์สีฟ้าจะสะท้อนภาพได้ชัดกว่าแสงสีแดง
ลองสังเกตอุปกรณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือกองพิสูจน์หลักฐานใช้หาลายนิ้วมือ
หรือคราบเลือดในที่เกิดเหตุอาชญากรรมกัน จะเห็นว่าใช้อุปกรณ์ที่มีแสงสีฟ้า

4x Diffuse Beam
ลำแสงเลเซอร์กว้างกว่าเมาส์ปกติถึง 4 เท่า
ทำให้เกิดแสงสะท้อนเพื่อส่งข้อมูลกลับมาได้มากขึ้น
ส่งผลให้สามารถใช้งานบนพื้นผิวที่ไม่ปกติได้ เช่น พื้นพรม
ซึ่งเมาส์ปกติที่มีลำแสงเลเซอร์แคบกว่า
จะสับสนในเรื่องพื้นผิวเพราะสะท้อนข้อมูลของเส้นพรมแต่ละเส้นแทน

Inchoherent Blue Light
เมาส์ปกติจะมีการส่งลำแสงเลเซอร์ออกมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวางบนพื้นผิวที่สกปรกหรือมีฝุ่น ก็จะขัดขวางการส่งสัญญาณข้อมูล
ทำให้การทำงานผิดพลาดได้ง่าย แต่การส่งลำแสงเลเซอร์ของ Blue Track Mouse
นี้เป็นแบบไม่ต่อเนื่อง ดังนั้น มันจึงไม่อ่อนไหวต่อพื้นผิวที่มีฝุ่น
และสามารถส่งข้อมูลได้อย่างมีคุณภาพ

ส่วนสาเหตุที่ปิ๊งไอเดียในการพัฒนา
เมาส์แบบใหม่นี้ขึ้นมา เกิดจาก Mark DePue
สังเกตเห็นภรรยาที่ต้องเลี้ยงลูกขณะกำลังใช้โน้ตบุ๊คทำงานไปด้วย
เวลาลูกซนและวิ่งทั่วบ้าน เธอก็จะย้ายจุดตามลูกไป
ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์หินอ่อนในห้องครัว หรือพื้นพรมในห้องนั่งเล่น
ซึ่งก็ทำให้เกิดความลำบากในการทำงาน เพราะเมาส์ใช้งานไม่ได้เลย

สำหรับ Blue Track Mouse
นี้จะออกวางตลาดเมื่อไหร่นั้น Mark DePue ยังไม่เปิดเผยแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มันถูกนำมาใช้ในบางหน่วยงานของ Microsoft แล้ว

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ 12 กันยายน พ.ศ. 2551