image

 

อุปกรณ์ขนาดจิ๋วที่เหน็บเข้ากับกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงได้ จะคอยติดตามการใช้ชีวิตของคุณ และเตือนเมื่อสุขภาพคุณเริ่มแย่

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : โดย บารมี นวนพรัตน์สกุล

อุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้มีชื่อว่า Fitbit เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ในงาน TechCrunch50 ในเมืองซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

โดย Fitbit ทำหน้าที่เป็นเหมือนหมอประจำตัว ที่จะติดตามสุขภาพของผู้ใช้ในทุกนาที เพื่อวัดค่าต่างๆ เช่น แคลลอรี่ที่ถูกใช้ไปในแต่ละวัน หรือจำนวนชั่วโมงการนอนหลับ ซึ่งบ่งบอกว่าผู้ใช้ออกกำลังกายหรือนอนหลับเพียงพอหรือไม่

ทั้งนี้ Fitbit จะแสดงผลเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ดอกไม้ โดยดอกไม้จะบานถ้าผู้ใช้กินอาหารแคลลอรี่ต่ำ เช่น สลัด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนหลับอย่างเพียงพอ แต่ถ้ากินชีสเบอร์เกอร์เป็นมื้อเย็น ไม่ออกกำลังกาย และนอนดึก Fitbit ก็จะแสดงสัญลักษณ์เป็นดอกไม้เฉา เป็นต้น

ด้าน James Park ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร Fitbit บอกว่า แรงบันดาลใจของการสร้างอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็คือ ต้องการส่งเสริมให้คนอเมริกันลุกออกจากโซฟา แล้วไปออกกำลังกายเสียบ้าง รวมถึงต้องการให้คนกินอาหารที่ดีขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย

“ผมมีแนวคิดนี้ขึ้นมาเพราะ เมื่อก่อนผมสุขภาพไม่ดี ตอนตั้งบริษัทใหม่ๆ เมื่อ 3 ปีก่อน ผมทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง และเริ่มรู้สึกว่าไม่ได้การล่ะ ผมต้องออกกำลังกายบ้างแล้ว ซึ่งหลังจากที่คิดค้น Fitbit ขึ้นมาและนำติดตัวตลอด 2 เดือนครึ่ง น้ำหนักก็ลดลงเกือบ 7 กิโลกรัมเลยทีเดียว”

Fitbit เป็นอุปกรณ์ไร้สาย ขนาดเล็กเท่าหัวแม่มือ มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวคล้ายๆ กับเซ็นเซอร์ของ Nintendo Wii นั่นเอง โดยเซ็นเซอร์นี้จะจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ตลอดเวลา และส่งข้อมูลอัพโหลดไปยังเว็บไซต์ fitbit.com

ด้วยรูปร่างที่ดูทันสมัยและไม่เกะกะ ทำให้ผู้ใช้สามารถเหน็บ Fitbit ติดตัวได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่กระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากางเกง โดย Fitbit จะตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกาย จำนวนแคลลอรี่ที่ใช้ การก้าวเดิน ระยะทางที่เคลื่อนไหว และจำนวนชั่วโมงการนอนหลับ

เมื่อข้อมูลถูกส่งไปยังเว็บไซต์ fitbit.com แล้ว ผู้ใช้ก็สามารถเข้าไปใส่ข้อมูลอาหารที่กินเข้าไป และระบบก็จะคำนวณและประเมินสุขภาพโดยรวมของผู้ใช้ออกมาได้

แม้ว่าการใส่ข้อมูลอาหารและของว่างใน เว็บ จะเป็นเรื่องเสียเวลาและน่าเบื่ออยู่บ้าง แต่ James Park บอกว่า สำหรับคนที่เอาใจใส่เรื่องสุขภาพอย่างจริงจังแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรเลย

นอกจากนี้ ในอนาคต James Park มีแผนที่จะเปิดตัวบริการพิเศษ เอาใจคนที่ต้องการใช้ Fitbit ตรวจวัดและประเมินสุขภาพเป็นรายบุคคล โดยจะเป็นการตรวจวัดที่มีรูปแบบเฉพาะสำหรับผู้ใช้แต่ละคนเลยทีเดียว

 

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ 11 กันยายน พ.ศ. 2551