เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือที่ปัจจุบันเรียกกันว่าเขื่อนรัชประภา เป็นเขื่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อ.พนม  อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีความสวยงามตามธรรมชาติของหน้าผาหินปูนริมลำน้ำ ความเขียวขจีของป่าไม้และสัตว์ป่านานาชนิด จนได้รับฉายาว่ากุ้ยหลินเมืองไทย และนี่คือเหตุผลที่เขื่อนเชี่ยวหลานเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม เป็นอันดับต้นๆแห่งหนึ่งของเมืองไทย และเราจะนำท่านไปสัมผัสกับความงดงามของสถานที่แห่งนี้กัน

 

 

 

 

วันศุกร์

22:00 น.      ออกเดินทางจากจุดนัดพบ ที่ลานจอดรถหน้าศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ประตู 1 ฝั่งถนนงามวงศ์วาน) เพื่อนั่งรถตู้ปรับอากาศมุ่งหน้าสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี กรณีที่ไม่สะดวกจะขึ้นรถจาก ม.เกษตรฯ สามารถนัดเจอกัน ณ จุดที่ท่านคิดว่าสะดวกก็ได้ ทั้งนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกส่วนใหญ่ด้วย

 

วันเสาร์

8:00 น.        ถึงเขื่อนเชี่ยวหลาน รับประทานอาหารเช้าที่ครัวเชี่ยวหลาน อาหารอร่อยท่ามกลางบรรยากาศริมเขื่อน

9:00 น.           ลงเรือหางยาวที่หน้าเขื่อนไปยังแพโตนเตย (มีเสื้อชูชีพ)ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เก็บสัมภาระเข้าที่พักบนแพ

10:30 น.           พักผ่อนตามอัธยาศัย ว่ายน้ำเล่น พายเรือแคนู (มีให้เช่า) เล่นห่วงยาง น้ำใสจนสามารถมองเห็นฝูงปลาตะเพียนที่แหวกว่ายไปมาอยู่ข้างล่างได้อย่าง ชัดเจน

12:00 น.           รับประทานอาหารกลางวัน (ข้าวผัด) บนแพ อิ่มแล้วเราจะนำท่านเดินป่าไปยังถ้ำน้ำทะลุ ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ผ่านลำธารน้ำและป่าดิบชื้นอันอุดมสมบูรณ์ก่อนถึงปากถ้ำ(ควรเตรียมฟิตร่างกาย มาให้พร้อม) ถ้ำน้ำทะลุ เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีปากถ้ำกว้างถึง 30 เมตร ภายในกว้างขวางมีลำธารไหลผ่านตลอดความยาว 500 เมตร มีความงดงามของหินงอกหินย้อยและเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวจำนวนมาก การเดินทางภายในถ้ำจะต้องเดินตามน้ำตลอด มีบางช่วงที่ต้องลอยคอหรือไต่เชือกไปในน้ำ ได้รสชาติของการผจญภัยในอีกรูปแบบหนึ่ง กรุณาเตรียมถุงพลาสติกหลายๆใบไว้ใส่กล้องถ่ายรูป นาฬิกา กระเป๋าสตางค์ และสิ่งของที่จะได้รับความเสียหายเมื่อเปียกน้ำ ใส่ชุดรัดกุม รองเท้าหุ้มข้อ กลับถึงแพโตนเตยประมาณ 16:30 น.

16:30 น.           ช่วงเวลาฟรีสไตล์ก่อนอาหารเย็น จะเล่นน้ำหรือพายเรือเล่นอีกรอบก็เชิญได้ตามอัธยาศัย

18:30 น.           รับประทานอาหารเย็นบนแพ  อิ่มอร่อยกับเมนูเด็ดปลาแรดตัวขนาดโตกว่าจานเปลทอด แกงส้มปลามง(ปลากดน้ำจืด)กับหน่อไม้ ต้มจืดเต้าหู้และผัดผักรวม อิ่มอร่อยเติมได้ไม่จำกัด ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติก ใครที่ไม่กินปลาน้ำจืดกรุณาแจ้งล่วงหน้า เราจะสั่งอาหารอย่างอื่นไว้ให้ อิ่มแล้วก็เชิญพักผ่อนตามอัธยาศัย ใครจะนั่งตกปลาหรือตั้งก๊วนร่วมก๊งก็เชิญได้ตามสบาย แต่ขอแนะนำให้เตรียมปัจจัยใส่เรือไปจากฝั่งดีกว่าครับ(อันนี้ไม่ได้แนะนำให้ ละเมิดศีลข้อห้า แต่บรรยากาศมันพาไปจริงๆ)

 

วันอาทิตย์

7:30 น.           รับประทานอาหารเช้าที่แพ(ข้าวต้ม) อิ่มแล้วเก็บสัมภาระขึ้นเรือได้เลยครับ

8:00 น.           อำลาแพโตนเตย นั่งเรือไปชมกุ้ยหลินเมืองไทยซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาป ชมความงามของแท่งหินและชะง่อนผาที่โผล่ขึ้นมากลางลำน้ำเป็นทิวแถวสลับซับ ซ้อนตัดกับสายหมอกยามเช้าที่นุ่มนวลชวนฝันเหมือนกับภาพจิตรกรรมของจีน(ไม่ ได้บรรยายชวนเชื่อ รับรองว่าสวยจริงๆ) นอกจากนี้บริเวณหน้าผายังมีปาล์มพระราหูซึ่งเป็นปาล์มหายากพบเฉพาะที่นี่ให้ ดูด้วย

10:00 น.          นั่งเรือกลับฝั่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที แวะชมทิวทัศน์บริเวณสันเขื่อนของการไฟฟ้า

ฝ่ายผลิต จากนั้นก็เดินทางกลับ แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ อ.บ้านตาขุน แวะซื้อของ

ฝากไข่เค็มเมืองไชยา กล้วยเล็บมือนางที่ชุมพร รับประทานอาหารเย็นที่ประจวบฯ ถึงกรุงเทพฯ

 

ที่มา:

- http://www.wanakorn.com/programs_detail.php?tid=26&nid=353