เอ็นเนียแกรม คืออะไร
เอ็นเนียแกรม เป็นศาสตร์โบราณเกี่ยวกับการวิเคราะห์ลักษณะคน ศึกษาและรวบรวมโดยนักบวชลัทธิซูฟีของศาสนาอิสลาม ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในต่างประเทศ สำหรับประเทศไทยเอ็นเนียแกรมได้เข้ามาเมื่อ 8 ปีที่แล้วและแพร่หลายในกลุ่มเล็กๆ โดยท่านสันติกโรภิกขุ พระภิกษุชาวอเมริกัน ซึ่งศาสตร์นี้เป็นภาษาไทยว่า นพลักษณ์ อันหมายถึงลักษณะ 9 แบบ และที่สำคัญนพลักษณ์ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ โหงวเฮ้ง ไม่เกี่ยวกับหลักธรรมของศาสนาใดๆ แต่ทว่าเป็นศาสตร์ที่ช่วยอธิบายพฤติกรรมทางด้านจิตวิญญาณและจิตวิทยาของตน เองและผู้อื่นที่เรามองไม่เห็นหรือไม่เข้าใจนั่นเอง
ปัจจุบันมีหลายองค์กรได้นำทักษะความรู้ในเรื่องนพลักษณ์ไปประยุกต์ใช้ใน การพัฒนาบริหาร และกระตุ้นประสิทธิภาพการทำงานมีประโยชน์หลากหลาย เช่น พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น มอบหมายคนให้ตรงกับงาน ลดความขัดแย้ง ลดความแตกต่าง พัฒนาการเพื่อการสื่อสารระหว่างบุคคล ทั้งนี้ยังช่วยส่งเสริมการทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี ศาสตร์นพลักษณ์นั้นเสมือนหนึ่งเป็นเครื่องมือสำรวจตัวเองเพื่อให้มี ประสิทธิภาพ ดังนั้น คุณจะต้องเข้าใจก่อนว่าไม่ได้เกิดจากสิ่งภายนอกแต่เกิดจากภายในตัวบุคคล และหากอยากจะรู้ว่าคุณเป็นคนลักษณ์ใดนั้นก็ต้องหมั่นสังเกตตนเอง ให้เวลากับตัวเอง อยู่กับความคุ้นเคยบ่อยๆ รวมถึงเรียนรู้เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า ลูกน้องว่าเป็นคนลักษณ์ใด ซึ่งแต่ละลักษณ์ก็มีทั้งข้อดีข้อเสียทั้งต่างและคล้ายกันอยู่บ้าง และมีแนวทางการปรับปรุงต่างกันไป เรียกว่าเมื่อเรียนรู้กันและกันแล้ว คราวนี้ก็เข้าสู่การเข้าใจตนเองและยอมรับผู้อื่นในสิ่งที่เขาเป็น ก็จะช่วยให้สื่อสารกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
9 ลักษณ์ ประกอบด้วย
1. คนสมบูรณ์แบบ (The Perfectionist)
เป็นคนลักษณะที่เรียกว่าต้องการปรับปรุงตนเองและมีชีวิตในแบบที่ถูกต้อง เป็ฯคนชอบวิพากษ์วิจารณ์ตนเองและผู้อื่น ในด้านเด่นคนนี้ลักษณ์เป็นคนทำงานหนัก อุทิศตนให้งาน มีวินัยในตนเองสูง ทำอะไรเป็นแบบแผน ซื่อสัตย์ มีอุดมคติและจริยธรรม ต้องการรางวัลในการทำงานแลต่ไม่ยอมร้องขอ เมื่อโกรธจะไม่ค่อยแสดงออก ในด้านด้อยอาจมีแนวโน้มชอบตัดสินคนอื่น ช่างวิตกกังวล ชอบโต้เถียง เหน็บแนม ดื้อรั้น และมักเอาจริงเอาจังเกินไป รวมไปถึงนิสัยที่ชอบควบคุมคนอื่น
สื่อสารกับคนลักษณ์ 1 พยายามเติมอารมณ์ขันเล็กๆ น้อยๆ ไปในวงสนทนา แสดงให้เห็นว่าไม่ได้หัวเราะสิ่งที่เขาพูด เพิ่มน้ำหนักให้กับประเด็นที่เขาค้านหัวชนฝาหากเป็นวิธีเดียวที่ทำให้งาน เดิน พยายามต้อนรับคำวิพากษ์วิจารณ์คนลักษณ์นี้เถอะ หากยังอยู่ในบริบทที่เป็นบวกหรือเหมาะสม
สร้างแรงจูงใจโดย กำหนดบทบาทการทำงานให้เขาเพราะคนลักษณ์นี้ กลัวความผิดพลาด หรือไม่ก็ประสานความสมบูรณ์แบบเข้ากับความเป็นจริง สร้างมาตรฐานของงานกับเขาโดยใช้วิสัยทัศน์เชิงบวก และที่สำคัญคุณต้องซื่อสัตย์และยุติธรรมกับเขาพอ
2. ผู้ให้ (The Giver)
เป็นคนที่ต้องการมีคุณค่า เป็นที่รักของคนอื่น มีจิตวิทยาในการสื่อสารกับคนอื่นมาก เข้ากับคนอื่นได้ดี และมีพลังเหลือเฟือมาจากความภาคภูมิใจที่มาพร้อมกับภาพลักษณ์ในฐานะผู้ให้ ความช่วยเหลือ ชอบทำตัวเป็นมือขวาในการทำงาน เหมือนพวกเลขาฯ รู้ความลับเจ้านาย ประมาณว่ากุมอำนาจอยู่เบื้องหลัง ชอบเป็นศูนย์กลางข้อมูลของทุกๆ อย่าง ชอบให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำ ไม่ว่าคนอื่นต้องการหรือไม่ก็ตาม มีหลายบุคลิก ปรับเปลี่ยนตนเองไปตามสถานการณ์และความต้องการของคนอื่น ด้านไม่ดีอาจควบคุมคนอื่นด้วยการประจบ เยินยอ คนลักษณ์นี้จัดเป็นนักสื่อสารตัวยง
สื่อสารกับคนลักษณ์ 2 ควรใช้กิริยาและน้ำเสียงที่อบอุ่น แสดงความสนใจเป็นการส่วนตัวและชื่นชมในตัวเขาไม่ควรให้ความคาดหวังเพราะเขา อาจหวังว่าจะต้องได้รับในเรื่องการวิพากษ์ต้อง ชี้ชัดตรงประเด็น
สร้างแรงจูงใจโดย สัมพันธภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่เขาต้องการ ในการทำงานมักลำดับว่าเป็นงานของใคร ซึ่งก็จะให้ความสำคัญกับผู้มีอำนาจมากกว่าก่อน ซึ่งจริงๆ ต้องโฟกัสไปที่งาน ไม่ใช่ที่คน
3. นักแสดง ( The Performer )
เป็นผู้ใฝ่ความสำเร็จ แรงจูงใจคือการเป็นที่ยอมรับนับถือ ประสบความสำเร็จในงานทุกด้าน ภายนอกดูเป็นคนมีความสุขและมองคนในแง่ดี การรักษาภาพลักษณ์เป็นสิ่งที่เขาใส่ใจทุ่มเททำงานหนัก บ้างานจนทิ้งครอบครัว ไม่ดูแลตัวเองหวังว่าคนอื่นจะทำงานหนักด้วย เลี่ยงความล้มเหลวทุกประการ เลือกทางที่จะได้รับการตอบรับที่ดีเท่านั้น ถ้าเกิดความล้มเหลวจะโยนใส่คนอื่น ชอบแข่งขัน มุ่งเอาชนะ ต้องการชิงตำแหน่งผู้นำ ทนการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้
สื่อสารกับคนลักษณ์ 3 ใช้วิธีการสื่อสารแบบเซลล์แมน เขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกโอกาส ด้วยความที่เป็นคนห่วงภาพลักษณ์อย่างมาก ดังนั้น วิธีการสื่อสารคือแสดงให้เห็นว่า “ นับถือความสามารถเขาจริงๆ แต่ไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้ ”
สร้างแรงจูงใจโดย ควรฉาพภาพเส้นทางสู่ ความสำเร็จในองค์กรอย่างชัดเจน เพราะพวกเขาจะปีนป่ายไปสู่จุดนั้น ระบบการตรวจสอบและให้รางวัลจะทำให้เขามีความสุข บางทีใช้เวลาทำงานมากเกินไปอาจต้องสนับสนุนให้พักผ่อนหรือลาพักร้อนเพื่อ ความสมดุล
4. คนโศกซึ้ง ( The Tragic Romantic )
เป็นคนที่ต้องการที่จะเข้าใจความรู้สึกตัว เอง แสวงหาความหมายของชีวิต หลีกเลี่ยงความสามัญธรรมดา ต้องการงานที่แตกต่าง งานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ค์ ประสิทธิภาพของงานขึ้นอยู่กับสภาพอารมณ์ มีบุคลิกศิลปิน ช่างจินตนาการ ต้องการแสดงความรู้สึกออกมา อยากให้คนอื่นมองว่าเป็นคนพิเศษ ข้อด้อยไม่สามารถแยกเรื่องรักใคร่ส่วนตัวออกจากกิจธุระ ก้าวร้าว หรือพยายามขับคู่แข่งขันออกไปจากพื้นที่การทำงาน แต่ชอบคนเก่งที่อยู่นอกทีม จะว้าวุ่นรู้สึกเหี่ยวเฉา ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนเก่งกว่า หรือได้รับความสำคัญกว่า
สื่อสารกับคนลักษณ์ 4 ต้องการความสนับสนุนทางจิตใจ ความรู้สึกเป็นสิ่งสำคัญ อย่าหนีหน้าเวลาเขาแสดงอารมณ์ แม้อารมณ์จะขึ้นๆ ลงๆ แต่ประสิทธิภาพการทำงานจะกลับคืนมาด้วยเมื่อสติเขากลับคืนมา
สร้างแรงจูงใจโดย จะถูกขับเคลื่อนด้วยความสนใจอย่างพิเศษ ตารางทำงานอาจไม่มีแบบแผนไม่เหมือนใคร ควรบอกให้ตระหนักเรื่องเวลา หากคุณเป็นหัวหน้าเตรียมรับมือกับงานล่าช้า หรือการขาดงานของลูกน้องกลุ่มนี้ไว้บ้าง
5. นักสังเกตการณ์ ( The observer )
เป็นคนที่ต้องการรู้และเข้าใจในสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง หลีกเลี่ยงความรู้สึกของการถูกครอบงำหรือบุกรุก ชอบสะสม ชอบอยู่คนเดียว ใช้ความคิดหรือในสิ่งที่ตนสนใจ ต้องการอะไรที่คาดการณ์ได้ ตัดสินใจโดยปราศจากความรู้สึกส่วนตัว จะถือว่าการแสดงอารมณ์เป็นการเสียการควบคุมตนเอง หลีกเลี่ยงความขัดแย้งจนถึงที่สุด จะมีประสิทธิภาพมากถ้าไม่ต้องยุ่งเกี่ยวหรือสังสรรค์กับใคร ทำงานหนักได้ถ้าได้รับความเป็นอิสระและความเป็นส่วนตัว
สื่อสารกับคนลักษณ์ 5 เป็นคนที่คนอื่นอาจรู้จักเขาน้อยหรือไม่ค่อยเข้าใจ เพราะไม่ชอบเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟัง ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งถอยห่าง ดังนั้น พึงเคารพในพื้นที่ของเขา ปล่อยให้คิดเห็นอย่างเป็นอิสระ ไม่ควรคะยั้นคะยอถามว่ารู้สึกอย่างไร
สร้างแรงจูงใจโดย ให้เวลาในการ เสนอแนวคิด วิสัยทัศน์ เขาชอบอยู่ในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเปิดโอกาสให้ได้ประเมินสิ่ง ต่างๆ แต่อาจจะยากหากให้เขาเป็นคนแรกในการแยกประเด็น
6. นักปุจฉา ( The Questioner )
เป็นคนต้องการความมั่นคงปลอดภัย เป็นคนกลัวการขู่คุกคามแล้วจะแสดงความกลัวออกมา ระแวดระวัง ขี้สงสัย ลังเล มองโลกในแง่ร้าย บางครั้งพยายามทำตัวให้ถูกใจคนอื่น ส่วนประเภทกลัวแล้วจะสู้จะดูกล้าหาญ ท้าทายเพื่อปกปิดความกลัว ส่วนใหญ่จะมีลักษณะทั้งสองปนกัน
สื่อสารกับคนลักษณ์ 6 พยายามลดช่องว่างของความเสี่ยงให้มากที่สุด แต่คาดหวังผลลัพธ์สูง เป็นคนที่ไม่สามารถพูดในที่สาธารณะ ต้องการการยืนยันแน่นอนก่อนจะเคลื่อนไหว
สร้างแรงจูงใจโดย หากทีมงานแสดงให้เขาสามารถวางใจได้ ไม่มีอะไรซ่อนเร้น คนลักษณ์นี้จะซื่อสัตย์ภักดีอย่างมาก ส่วนอีกวิธีหนึ่งควรป้องกันเรื่องสภาพจิตใจ อย่าปล่อยให้เป็นคนคิดมาก เพราะอาจเป็นคนระแวงจนเกินไป ช่วยขจัดความลังเล และพยายามสร้างสภาพแวดล้อมในที่ทำงานให้มั่นคง ไว้ใจได้
7. นักผจญภัย ( The Adventure )
เป็นคนต้องการที่จะมีความสุข หลีกเลี่ยงความทุกข์ ความเจ็บปวด ปิดบังความกระวนกระวายด้วยการทำตัวให้ยุ่ง และมีแผนการมากมายที่ยังไม่ได้ลงมือทำ มีความรู้สึกข้างในว่าตัวเองเก่งและมีคุณค่า เปิดรับความคิดใหม่ๆ มากกว่าความจำเจ เป็นพวกต่อต้านอำนาจแบบลักษณ์ 8 แต่จะใช้วิธีเล็ดลอดแทนการเผชิญหน้าโดยตรง ละมุนละม่อมในการแก้ปัญหา มักเป็นเพื่อนร่วมงานที่สร้างความสุข สนุกสนานให้เสมอ ด้วยการมีอารมณ์ขัน ความคิดสร้างสรรค์ค์และการให้อภัย ชอบความสัมพันธ์แบบเท่าเทียมกัน แต่ก็มีแนวโน้มเบี่ยงแบนชักจูงคนอื่นเพื่อตนเอง
สื่อสารกับคนลักษณ์ 7 ด้วยความเป็นคนมองโลกในแง่ดี ทำให้เป็นคนสบายๆ ง่ายๆ แต่บ่อยครั้งก็หละหลวม จึงยากที่จะควบคุมคนพวกนี้ สิ่งหนึ่งคือควรช่วยประสานแนวคิดให้เป็นไปในทางเดียวกัน พยายามให้เขามองด้านลบไปพร้อมกับด้านบวก
สร้างแรงจูงใจ ต้อนรับวิสัยทัศน์แง่บอกอย่างยินดี ร่วมแชร์ความคิดกับเขา เพราะจะสนุกสนานในการพบปะผู้คน ไม่ควรใช้วิธีการสั่งการหรือควบคุม เพราะเขาจะทำตัวลื่นไหลและหนีห่างจากความรับผิดชอบ
8. เจ้านาย ( The Boss )
มีความต้องการพึ่งตนเอง เข้มแข็ง มีอิทธิพลต่อโลกเป็นพวกมีปัญหาเกี่ยวกับความโกรธและหลงลืมตัวเอง ชอบสวมบทบาทผู้คุมกฎ แตกต่างจากลักษณ์ 1 ตรงที่เขาพร้อมจะแสดงความโกรธออกมาได้เสมอ ในสถานการณ์ที่ไม่มีผู้นำก็แสดงบทบาทเอง อาจมองการประนีประนอมว่าเป็นการยินยอม อ่อนแอ มีความกังวลอย่างสูงว่าจะถูกครอบงำ สนใจเรื่องความถูกต้องยุติธรรมและการปกป้องคน ข้อด้อย มักมองว่าตนเองถูกยึกเป็นศูนย์กลางโกรธอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีวาระซ่อนเร้น แสดงความโกรธแบบไม่ยั้ง สนับสนุนกฎเกณฑ์ที่เข้ากับตนเอง เบี่ยงเบนกฎที่ไม่ถูกใจ
สื่อสารกับคนลักษณ์ 8 ควรสื่อสารแบบตรงไปตรงมา เมื่อเขาโกรธหรือตำหนิติเตียนก็ยอมรับ แต่อย่าเอามาเป็นเรื่องส่วนตัว คนลักษณ์นี้รับมือกับข่าวร้ายได้ดี แต่หากมองข้ามเขาจะทำให้รู้สึกเหมือนถูกทรยศหักหลัง ตรงไปตรงมาดีกว่า
สร้างแรงจูงใจโดย เต็มไปด้วยความปรารถนาในชีวิต พลังการแข่งขัน ท้าทาย ควรให้การเคารพนับถือ ความยุติธรรม และการสื่อสารที่ซื่อตรงหากต้องการให้เขาเป็นพันธมิตร
9. นักประสานไมตรี ( The Peacemaker )
เป็นคนหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทุกรูปแบบ ดูผ่อนคลายสบายๆ มีความต้องการมีสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและเจ้านาย ชอบการทำงานชัดเจนหรือทำงานเป็นกระบวนการทำงานได้รวดเร็ว ประสานงานดี วางลำดับความสำคัญงานยาก แต่ก็ไม่ชอบถูกกะเกณฑ์โดยคนอื่น ทำงานแข่งกับเส้นตาย ใช้เวลาจนนาทีสุดท้าย ข้อด้อย มักหลงลืมความต้องการ แต่บางทีก็แสดงความโกรธออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพิกเฉยปัญหาแล้วก็โทษระบบ โทษการจัดการว่าไม่ดีซะอย่างนั้น
สื่อสารกับคนลักษณ์ 9 หากเขาไม่ตอบรับแสดงว่าเขาปฏิเสธ หากต้องการให้ตกลงควรวางกรอบการสนทนาที่ชัดเจน พยายามควานหาความต้องการของเขาใส่ไปในโครงการด้วย
สร้างแรงจูงใจโดย ควรแสดงออกว่าเขามีคุณค่า จุดแข็งคนลักษณ์ 9 มองภาพกว้างจะช่วยในการมองยุทธศาสตร์ได้ดี ทำงานกับลักษณ์นี้ต้องใช้ความประนีประนอม ใจเย็นสักนิด อย่ายืนกรานตลอดเวลา อาจต้องใช้เวลาพอสมควรหากให้ต้องการให้ซึมซับความคิดต่างๆ
ที่มา: www.formumandme.com
เพิ่มเติม:
- http://www.dekisugi.net/enneagram/index.jsp (เนื้อหาและแบบทดสอบเกี่ยวกับนพลักษณ์)
0 comments:
แสดงความคิดเห็น