เริ่มต้นจากเมืองธรรมดาๆ น่าอยู่ แต่พอความเจริญเข้ามาถึงก็เกิดเรื่อง
เมื่อสถาบันแบล็กสมิธ (blacksmith Institute) อันเป็นองค์กรจับตาความเปลี่ยนแปลง เรื่องสิ่งแวดล้อมของโลก มีสำนักงานอยู่ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศถึงเมืองซึ่งมีมลภาวะที่สุด 5 อันดับของปี 2007 และถ้าใครกำลังจะเดินทางไปที่นั้น ควรหลีกเลี่ยงจะดีกว่า
1. เชอร์โนบิล ประเทศยูเครน หลังจากมีชื่อเสียจากอุบัติเหตุเตาปฏิกรณ์นิวเครียร์ระเบิดในปี 1986 แล้ว แต่เวลาผ่านมาถึง 21 ปี กลับมีผู้คนได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมีตัวเลขในปัจจุบันถึง 5.5 ล้านคน ที่สำคัญ ในรัศมี 19 ไมล์ รอบเตาปฏิกรณ์นิวเครียร์ดังกล่าว ยังเป็นพื้นที่อันตราย ไม่สามารถอาศัยได้ต่อไป
2. หลินเฟิน ประเทศจีน ถือเป็นเมืองศูนย์กลางการใช้พลังงานถ่านหินของจีน จึงมีเขม่าคาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์และอื่นๆ ปล่อยออกมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุด กระทั่งมีประชาชนสูดควันพิษเข้าไปอย่างเต็มอก และออกอาการร้ายมากถึง 3 ล้านคน
3. สุกินดา ประเทศอินเดีย (SUKINDA, INDIA ) เมืองแห่งแร่โครไมท์ในรัฐโอริสสานี้ มีเหมืองแร่ชนิดดังกล่าวมากถึง 12 แห่ง แต่ที่ร้ายไปกว่าน้ันคือ ปราศจากระบบจัดการด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้น เลยมีเศษหิน 30 ล้าน ตัน กระจายไปทั่วเมือง แถมมีน้ำเสียจากเหมืองไหลลงแหล่งน้ำอีกต่างหาก ตอนนี้เลยมีคนรับกรรมไปแล้ว 2.6 ล้านคน
4. เซอร์ซินสค์ ประเทศรัสเซีย (Dzerzhinsk, Russia ) ถึงจะเจอกินเนสส์บุ๊คบันทึกไปแล้วว่า เป็นเมืองที่มีมลพิษทางเคมีมากที่สุดในโลก เพราะเป็นศูนย์กลางการผลิตเคมีภัณฑ์และอาวุธเคมีตั้งแต่สงครามเย็น รวมทั้งมีโรงงานผลิตน้ำมันที่มีสารตะกั่ว แต่ปัจจุบันก็ยังมีแก๊สซาริน แก๊สวีเอ็กซ์ และสารตะกั่วปนเปื้อนอยู่ โดยมีประชากรได้รับผลไปแล้ว 3 แสนคน
5. ซัมกายิต ประเทศอาเซอร์ไบจาน (Sumgayit, Azerbaijan) เป็นเมืองอุตสาหกรรมด้านสารเคมี น้ำมัน และโลหะหนัก แต่ละปีมีมลพิษสู่อากาศ 70-120,000 ตัน โดยมีประชาชนได้รับพิษร้ายถึง 275,000 คน ซ้ำร้ายเมืองนี้ยังมีอัตราผู้ป่วยโรคมะเร็งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ 22-51 เปอร์เซนต์ และการเปลี่ยนแปลงของยีนส์กับการพิการแต่กำเนิดถือเป็นเรื่องปกติ
ที่มา : http://variety.mcot.net/